วันที่ 1 มกราคม  2557 เวลา 06.00 น.

นักท่องเที่ยวยังหลงไหลความงามดอกไม้  

และอากาศเย็นบนดอยอ่างขางรถติดหนัก

                ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบสถานการณ์การท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันที่ 1 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันขึ้นต้นปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวยังแห่กันขึ้นเที่ยวบนดอยอ่างขาง ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หลายหมื่นคน รถยนต์จำนวนมาก ที่นักท่องเที่ยวใช้ในการเดินทางมาเที่ยวแน่นขนัดทุกพื้นที่ สภาพรถติดแน่นประมาณ 4 กิโลเมตร ในช่วงเช้า และช่วงบ่าย คาดว่าจะติดหนักกว่าเดิม และมีบางช่วงรถตู้เช่ารับนักท่องเที่ยว ได้เสียระหว่างขึ้นดอยอ่างขางหลายๆ คัน บ้านพักขึ้นราคาและเต็มทุกห้อง นักท่องเที่ยวก็ยังขึ้นมาหาที่กางเต้นท์ กันตลอดเวลาเพราะบ้านพักเต็ม หอบหมอน ผ้าห่ม มากันอย่างเต็มที่ และที่โครงการหลวงดอยอ่างขาง ก็ได้จัดหาเตาอังโล่ พร้อมฟืน และถ่านไม้ บริการนักท่องเที่ยว ยิ่งสายรถยิ่งติดหนักขึ้นตลอดเวลา ทุกหน่วยงานได้ช่วยอำนวยความสะดวกตลอดวัน  ความเย็นก็ยังหนาวเย็นอุณหภูมิประมาณ 5-6 องศาซี  ความสวยงามของดอกไม้ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางก็เต็มที่ นักท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นมาแล้วก็ได้สมใจที่ได้เดินทางมาด้วยความยากลำบากพอขึ้นมา ถึงก็หายเหนื่อยทันที  ก็ขอให้นักท่องเที่ยวทุกๆ คนจงมีความสุขกันทุกคนและขอได้รับแต่สิ่งดีๆ ตลอดไป

โครงการกองทัพบก มอบผ้าห่มช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน

วันที่  1 มกราคม  2557 เวลา  08.00 น.

โครงการกองทัพบก มอบผ้าห่มช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจนในพื้นที่ชายแดน เพื่อชายบรรเทาคลายความหนาวเย็นให้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกลกับความเจริญ และอาศัยตามแนวชายแดนไทย โดย พันเอกกันพจน์  เศษฐารัศมี  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่4กองกำลังผาเมือง ได้รับมอบหมายนโยบายให้นำผ้าห่มจำนวน 300 ผืนไปมอบให้กับประชาชนบ้านดอยเวียงผา หมู่ที่ 18 ตำบลศรีดงเย็น  อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ห่างไกลความเจริญ และหน่วยงานภาครัฐเข้าไปยากลำบาก ต้องข้ามน้ำข้ามห้วยหลายห้วย พื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,400 เมตร หน้าหนาวจะหนาวมาก มีแม่คะนิ้ง ลงทุกปี ในช่วงเดือนธันวาคม  ชาวบ้านเป็นกลุ่มชนเผ่าลาหู่ ที่ทั้งหมู่บ้าน ได้ตั้งกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน ทั้งหมู่บ้านปลอดยาเสพติดไม่ขาย ไม่เสพ  ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  และเป็นหมู่บ้านที่ที่มีการพัฒนานำเอาปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ตัดไม้ทำลายป่า อนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย  ประชากรมีทั้งหมดประมาณ 90 ครัวเรือนและมีสมาชิกทั้งหมด 300 กว่าคน

พันเอกกันตพจน์  เศษฐารัศมี  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่4 กองกำลังผาเมือง ได้เชิญนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติจากทางกรุงเทพฯ เข้าร่วมมอบผ้าห่มร่วมกับทางตัวแทนกองทัพบก พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลืออาหารกลางวันเด็กศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียน อีก 5,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชนตัวน้อยได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมสร้างร่างกายของเด็กให้พัฒนาตามวัยทั้งทางร่างกาย และสมอง และทางตัวแทนชาวบ้านได้มอบชาดอย (ชาอัสสัม) ที่ชาวบ้านทำเป็นอาชีพเสริมมอบให้กับ พันเอกกันตพจน์  เศษฐารัศมี  เพื่อนำไปชงดื่มเพื่อสุขภาพ และมอบอุปกรณ์วางแก้วน้ำ จากไม้ไผ่ที่ชาวบ้านทำกันเอง เป็นผลงานที่ทำกับมือ (แฮนด์เมค)  และยังได้รับทราบว่าในปี พ.ศ. 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำเนิน มาเยี่ยมประชาชนและพระราชทานต้นมะหม่น (ต้นบ๋วย )ให้กับประชาชน เพื่อเพาะพันธุ์ขยายจ่ายแจกเป็นไม้ผล และสามารถที่จะเก็บผลขายเป็นรายได้เสริม ชาวบ้านเป็นชาวเขาที่มีความสามัคคีกันมาก ได้รับสัญชาติไทยหมดแล้ว

เบิ่ง….สะพานมิตรภาพ เชียงของ – ห้วยทราย

เบิ่ง……เมืองริมโขง เชียงแสน – เชียงของ

            สู่ประตูบานใหญ่ เปิด 11-12-13 ...............

            อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ ถนนภูมิที่ตั้งริมน้ำโขง ทอดตัวยาว ระหว่างสองประเทศ สปป.ลาว ประมาณ 80 กิโลเมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบ “พาโนรามา” สายน้ำโขงฝั่งไทยและฝั่งลาว ได้อย่างชัดเจน ที่เราได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนสองฟากฝั่งตามจินตนาการและ...หากเราได้เรียบเรียงเชื่อมเรื่องราวของผู้คนของคนไทย คนลาว และเดินทางท่องเที่ยวสื่อสัมผัส วิถีชีวิตผู้คนสองฟากฝั่ง...เราก็จะเข้าใจวัฒนธรรมประเพณี อารยธรรม คนลุ่มน้ำโขง ที่สงบเงียบ เรียบง่าย พรั่งพร้อมด้วยไมตรีจิตของผู้คนในแถบนี้…….

            ถึงแม้ว่าฝั่งตรงข้าม อ.เชียงแสน จะตั้งอยู่ในอาณาเขต เศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ ที่นักธุรกิจที่จีนเข้าไปเช่าทำประโยชน์ พัฒนาคอมแพคหรูครบวงจร โดยเฉพาะยามตะวันตกดิน ค่ำคืนความงดงาม สีสันเงางามสะท้อนแสง จากอาคารหรูหรา บ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยอย่างครบครัน....ผู้คนดั่งเดิมบน “เกาะดอนซาว” แขวงบ่อแก้ว....ผู้คนเมืองห้วยทราย หลวงน้ำทา ยังอยู่ร่วมกับความหลากหลาย ทางประเพณีวัฒนธรรมได้อย่างงดงาม

            เมืองสุวรรณโคนคำ เมืองเก่าแก่ โบราณ ตามตำนานเล่าขานสืบประวัติต่อๆ มา ซึ่งตอนนี้หลงเหลือชมอยู่น้อยมากอยู่ระหว่างบูรณะซ่อมแซม...พระแสนแซ่ ประดิษฐ์อยู่ที่วัดศรีบุญเรือง เป็นพระพุทธรูปที่ชาวลาว เลื่อมใส ศรัทธา เป็นอย่างมาก เล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ อันน่าอัศจรรย์ ของผู้คนได้มากราบไหว้ ขอพร จากพระแสนแซ่ เป็นสิริมงคลของผู้คนสองฟากฝั่ง……………

            และในวันที่ สิบเอ็ด เดือน สิบสอง ปี 2013 (11–12-13) สะพานมิตรภาพเชียงของ “ห้วยทราย” สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว (สปป.ลาว) แขวงบ่อแก้ว – ประเทศไทย บ้านดอน อ.เชียงของ จะเปิด “ด่านพรมแดน” สองประเทศอย่างเป็นทางการโดยทั้งสองประเทศถือเป็นตัวเลขนิมิตหมายอันดีเอาฤกษ์เอาชัย วันที่ 11 เดือน 12 ปี 13 สู่จุดมุ่งหมายประตูบานใหญ่เชื่อมสู่อาเซียนภาคเหนือตอนบน.....

        ข้อมูล : สะพานมิตรภาพไทย – ลาว 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) เป็นสะพานข้ามน้ำโขงเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย

 ที่บ้านดอนมหาวัน อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับประเทศลาวที่บ้านนอน   แขวงบ่อแก้ว ระยะทาง  2- 48 กิโลเมตร รูปแบบ 

  สะพานเป็นแบบคอนกรีตรูปกล่อง (Segmental Concrete Box Girder) มีเสา 4 เสา กว้าง 14.70 เมตร เป็นสะพาน 2 เลน

  แต่ละเลนกว้าง 3.50 เมตร มีการสร้างถนนเชื่อมต่ออีกประมาณ 6 กิโลเมตร เข้าในเขตเมืองห้วยทราย (สปป. ลาว) เป็น 

  ถนนลาดยางขนาด 2 เลน รวมทั้งมีการก่อสร้างด่านตรวจคนเข้าเมือง เมืองทั้งสองประเทศ รูปแบบสถาปัตยกรรม

  แบบล้านช้าง เป็นการเชื่อมต่อกับเส้นทาง R3a ที่เชื่อมต่อระหว่าง จีน – ลาว – ไทย บริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็น

  กลุ่ม CR5 –KT Jiontventure ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท China Railway NO.5 ของจีน และบริษัท กรุงธน เอนจิเนียริ่ง  จำกัด ของไทย งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,624 ล้านบาท โดยการสมทบทุนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ส่วนรัฐบาลลาว รับผิดชอบค่าชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยก่อสร้างสะพานจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการใน

วันที่ 11 – 12 – 2013

 สนใจการท่องเที่ยว : ถนน R3a, R3b เชียงของ- ห้วยทราย- หลวงน้ำทา- บ่อเต็น- บ่อหาน-เชียงรุ้ง (สิบสองปันนา) คุนหมิง  ต้าลี่ – ลี่เจียง –ซือเหมา – สปป.ลาว หลวงพระบาง  เชียงตุง –เมืองลา , ย่างกุ้ง พุกาม มัณฑะเลย์ ทะเลสาบอินเล...ฯลฯ ด้วยประสบการณ์ กว่า 12 ปี เป็นประกัน เดินทางโดยรถ เรือ เครื่องบิน กับโปรแกรมผสมผสาน วัฒนธรรมหลากหลาย  เที่ยวครบ  กินอิ่ม  นอนหลับ  ไปกลับปลอดภัย  ติดต่อ 053 – 453233, 081-960-6463 วีอาร์พี ทัวร์ แอนด์ ทราเวล , บริษัท วีระพันธ์ – ซัพพลายเออร์ จำกัด 

สนธิกำลังจับขบวนการค้ายาบ้ากลุ่มไทยใหญ่5คนยาบ้า เจ็ดหมื่น เม็ดเศษ

วันที่ 11ธันวาคม 2556 ร่วมแถลงข่าวเวลา 14.00 น.

                พ.ต.อ.พงศ์ศักดิ์   ลิ้มเฉลิมฉัตร  รองผู้บัญชาการ ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 3 นายมนัส  ขันใส  นายอำเภอฝาง  พ.ต.ท.ฐิติพงษ์  เจนกิจเจริญชัย  ผู้บังคับกองร้อย ตชด. 334 นายแสวง  กาศรีวิชัย  ปลัดฝ่ายป้องกัน อำเภอฝาง  พ.อ.วิเศษ  เวโรจน์วิเศษศรี ผู้บังคับหน่วยการข่าวการทหาร กองกำลังผาเมือง และฝ่ายการข่าว (ตข2) กองกำลังผาเมือง  ตำรวจภูธรฝาง ที่ได้เข้าร่วมในการเข้าสนับสนุนวางแผนทำการจับได้ทั้งชุด   ได้ร่วมแถลงการณ์ว่าทราบว่ากลุ่มไทยใหญ่ ทำการส่งขายยาบ้าในพื้นที่ จึงวางแผนทำการล่อซื้อ โดยได้สนธิกำลังทุกฝ่ายเข้าจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาบ้า ซึ่งเป็นกลุ่มไทยใหญ่หลบหนีเข้าเมืองไทยอย่างผิดกฎหมาย ได้ยาบ้าตราเพชร จำนวนทั้งหมดประมาณ 72,000 เม็ด  (เจ็ดหมื่นสองพันเม็ด)โดยจับกุมได้ที่ บริเวณลานจอดรถร้านอาหารครัวหลวง  บ้านหนองอึ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่  แถลงการณ์ที่ทำการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 334 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

ได้จับกุม

1.นางอ่อง  ลุงส่าง  อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 10/ช บ้านท่าหัด หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ รับว่าเป็นคนหยิบยาบ้าใส่ในรถนายทุนเอง

2.นายไอ่แดง  ลุงติ อายุ 29 ปี อาศัยอยู่ในเมือง ตองจี ประเทศพม่า

3.นายศักดิ์ชาย  ลุงส่าง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 10/ช บ้านท่าหัด หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

4.นายจิตศรัทธา  ลุงส่าง อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 10/ช บ้านท่าหัด หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

5.นายแอตะ  ลุงยอด  อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 161/ช หมู่ที่ 5 บ้านลาน ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นคนไปรับยาบ้ามาให้นางอ่อง  ลุงส่าง  ส่งให้กับนายทุน  ทางตำรวจและชุดฯจับรายที่ 1 -2-3-4 และรายที่ 5 เป็นรายสุดท้าย

โดยทั้ง 5 คนรับสารภาพว่า ร่วมกันจริงในการส่งยาบ้าขายให้นายทุน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเท่านั้น ไทยใหญ่เข้ามาอาศัยในประเทศไทย มาหางานทำ และยังทำการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้คนไทยเสพ  ประเทศไทยเอื้อประโยชน์ให้ เพื่อหางานทำส่งเงินเข้าช่วยเหลือครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศ แต่กลับมาทำสิ่งเลวร้ายที่สุด ให้กับประเทศไทย รัฐบาลใหม่ควรจะนำมาคิดออกกฎหมายแรงงานเถื่อนให้รุนแรงกว่านี้   ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลหมดสิ้นแล้ว และได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินคดี ร่วมกันมีและจำหน่ายยาเสพติดอย่างผิดกกหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไปแล้ว