รถนักเรียนคว่ำเจ็บหนัก |
|
|
เขียนโดย VRP
|
รถนักเรียนคว่ำเจ็บหนัก
วันที่ 22 ธันวาคม 2554 เวลา 07.00 น.
รถนักเรียนได้รับนักเรียนที่บ้านสันมะกอกหวาน หมู่ที่ 9 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อที่จะไปส่งนักเรียนที่โรงเรียนฝางชนูปถัมภ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอฝาง ได้รับนักเรียนจำนวน 11 คน เป็นนักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย ได้เสียหลักพลิกคว่ำในหมู่บ้าน ทำให้เด็กนักเรียนดังกล่าวรับบาดเจ็บทั้งหมดสาหัส 2 ราย รถกู้ภัยของโรงพยาบาลฝางได้เข้าทำการกู้ภัยรับนักเรียนที่บาดเจ็บเข้ามาทำการรักษาพยาบาลทันที่ที่โรงพยาบาลซึ่งทั้งชุดแพทย์และพยาบาลกู้ภัยทำการเตรียมพร้อมทำการทันท่วงที ซึ่งทาง พตท.สนิท มาลา พนักงานสอบสวน 3 สถานีตำรวจภูธรฝางได้ตรวจที่เกิดเหตุทราบว่า คนขับชื่อนายอำพล ถนัดอักษร ขับรถตู้ นค- 4985 เชียงใหม่ ขับรถออกมาเนื่องจากหมอกลงหนักจึงเอื้อมมือเอาผ้าเช็คกระจกรถ จึงหลุดออกทางถนนตกลงร่องน้ำข้างทางพลิกคว่ำทันที ในขณะนี้คนขับก็ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
|
|
นักท่องเที่ยวเริ่มขึ้นอ่างขางชมแม่คะนิ้ง |
|
|
เขียนโดย VRP
|
นักท่องเที่ยวเริ่มขึ้นอ่างขางชมแม่คะนิ้ง
วันที่ 16 ธันวาคม 2554 เวลา 06.00 น.
ที่แปลงไม้ผลสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีอุณหภูมิ 2.5 องศาเซลเซียส ลมนิ่ง ทำให้เกิดน้ำค้างแข็งลงแปลงเกษตรในโครงการหลวง ในแปลงท้อและสาลี่ ในช่วงเช้าพอพระอาทิตย์ขึ้นก็ละลายทันที ยังขื้นไม่มาก ซึ่งนักท่องเที่ยวนอนกางเต้นท์และก่อกองไฟนอนผิงไฟคลายหนาวกันแล้ว และอาจจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก หลายวันถ้าอากาศยังเย็นลงเรื่อยๆ เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่อยากท้าทายความหนาวเย็นเริ่มขึ้นท่องเที่ยวสัมผัสกับความหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ที่พักในในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และส่วนเอกชน ช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้นรับปีใหม่ถูกจองล่วงหน้า เต็มหมดแล้ว แต่คงยังมีบ้างสำหรับบ้านพักของเอกชน ที่นักท่องเที่ยวจองแล้วไม่มาพัก หรือที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน ในสวน 80 ของสถานีมีดอกไม้นานาพันธุ์ที่ออกดอกสวยงามปลูกไว้ต้อนรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว ซึ่งมาเที่ยวแล้วไม่ผิดหวังสมใจอยาก
อ่างขางลบ 2 แม่คะนิ้ง ลง
วันที่ 21 ธันวาคม 2554 เวลา 06.00 น.
ที่แปลงไม้ผลสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีอุณหภูมิ ลบ 2.0 องศาซี ลมนิ่ง ทำให้เกิดน้ำค้างแข็งลงแปลงเกษตรในโครงการหลวง ในแปลงท้อและสาลี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวก่อกองไฟผิงไฟคลายหนาวกันแล้ว และอาจจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก หลายวันถ้าอากาศยังเย็นลงเรื่อยๆ เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่อยากท้าทายความหนาวเย็นเริ่มขึ้นท่องเที่ยวสัมผัสกับความหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้มีน้ำค้างแข็งมากกว่าทุกๆปี หลังคาและกระจกรถนักท่องเที่ยวเป็นน้ำค้างแข็งเต็มหมดทุกคันที่จอดรถในสนามไม่มีวัสดุคลุม ซึ่งมาเที่ยวไม่ผิดหวังสมใจอยากที่มานอนรอแม่กานิ้ง ตามท้องถนนบนดอยอ่างขางก็สวยงามด้วยดอกซากุระป่าและแนวเมฆหมอกที่ประทับใจนักท่องเที่ยว ช่วงนี้อากาศเปิดลมสงบทำให้เกิดแม่กานิ้ง จำนวนมากในแปลงเกษตรสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง
|
พระพร้อมชาวบ้านขุดดอยเป็นนา(โครงการปิดทองหลังพระ) |
|
|
เขียนโดย VRP
|
พระพร้อมชาวบ้านขุดดอยเป็นนา(โครงการปิดทองหลังพระ)
วันที่ 15 ธันวาคม 2554 เวลา 09.00 น.
หน้าหนาวออกแรงเพิ่มพลังขุดดอยให้เป็นนาก็คลายหนาวสร้างภูมิต้านทานหนาวได้และเป็นประโยชน์กับสังคม พระครูสถิต ธรรมมาภิรักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอไชยปราการ เจ้าอาวาสวัดป่าไม้แดง (วัดพระพรหมมหาราช) ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับคณะทำงานโครงการปิดทองหลังพระเพื่อสืบสานแนวทางพระราชดำริฯ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง กรมทหารพรานที่ 32 กองกำลังผาเมือง และทหารกองบังคับควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง พร้อมคณะทำงานสนองแนวพระราชดำริฯ ซึ่งเป็นชาวบ้านอาสาสมัครจากจังหวัดน่าน ร่วมกับชาบ้านในหมู่บ้านปาง ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ ได้ทำการปิดทองหลังพระโดยจัดทำการขุดแนวเขาที่ลาดชัน ให้เป็นนาแบบขั้นบันได โดยจะทำเป็นแปลงสาธิตให้ชาวเขาเลิกปลูกข้าวดอยน้ำฝน ที่มีผลผลิตต่อปี ไร่หนึ่งไม่เกิน 15 ถัง และยังมีการตัดไม้ทำลายป่ามาก เพื่อต้องการเพิ่มจำนวนพื้นที่มากขึ้นซึ่งผลผลิตให้ได้จำนวนมากตามมาเป็นความเข้าใจที่ผิด
ทางคณะทำงานจึงจะจัดดอยให้เป็นนา สามารถเก็บน้ำได้และทำการปลูกข้าวแบบนาดำ ซึ่งให้ผลผลิตที่มากกว่าถึงไร่ละ 70 ถัง ไม่ต้องทำการแผ้วถางทำลายป่าไม้ เพื่อเพิ่มจำนวนพื้นที่อีก ซึ่งถ้าชาวบ้านเห็นผลจริง ก็จะสามารถลดการทำลายป่าลงได้มาก เป็นการอนุรักษ์ต้นน้ำได้มาก เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวแล้วยังสามารถปลูกผัก ปลูกพืชเศรษฐกิจได้อีกหลายอย่าง เป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกวิธีหนึ่ง ชาวบ้าน , ผู้ทำงาน,และทหาร,พระ ได้ร่วมกันลงแรงเพื่อพัฒนาการผลิตข้าวและอนุรักษ์การทำลายป่า และได้ออกสำรวจต้นน้ำพบว่ามีน้ำออกรูธรรมชาติ อีกจำนวนมากในพื้นที่ซึ่งก็เป็นต้นทุนในการผลิตที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ที่สำคัญต้องรีบเร่งทำงานเพื่อให้ได้เห็นผล จะทำให้ชาวบ้านช่วยกันทำการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ไม่ให้น้ำออกรูเหือดแห้งไปก่อนเวลาอันควร ซึ่งมีชาวบ้านหลายรายที่มาพบเห็นการทำงานขุดดอยให้เป็นนา เชื่อว่าผลผลิตข้าวได้มาก จึงขอทีมงานเข้าช่วยดำเนินการให้ และจะขอเพื่อนบ้านมาร่วมแรงลงแขกปรับเปลี่ยนเลิกปลูกนาดอยรอน้ำฝนกลับมาปลูกนาดำ ไม่ต้องบุกรุกทำลายป่าต่อไป
|
ตู้ยามสันทราย จับยาบ้า 5 ธ.ค. 54 เวลา 12.30 น. |
|
|
ปะหร่องห้วยหมากเลี่ยมหนาวขาดผ้าห่ม |
|
|
เขียนโดย VRP
|
ปะหร่องห้วยหมากเลี่ยมหนาวขาดผ้าห่ม
วันที่ 8 ธันวาคม 2554 เวลา 07.00 น.
ปะหร่องบ้านห้วยหมากเลี่ยม หมู่ที่ 9 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่หมู่บ้านชายแดนติดเขตแดนพม่า อพยพมาอาศัยในประเทศไทยมากกว่า 30 ปี จนมี ลูกหลานออกมาเต็มหมู่บ้านแล้ว บางรายก็ได้สัญชาติไทยแล้ว บางรายก็ยังรออยู่ ในหมู่บ้านนี้ มีจำนวนครอบครัว ประมาณ 70 ครอบครัว ประชากร 300 คน มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และทำไร่ ทำนาบนเขา มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวไปเป็นวันๆ และจะแต่งงานกันในวัยที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี ก็จะมีลูกหลานออกมา ทำให้สภาพครอบครัวยากจน ไม่มีงานทำที่เป็นหลักแหล่งถาวร แล้วแต่จะมีงานรับจ้างที่ไหนให้ทำงานก็จะไปรับจ้างกัน การศึกษาก็ประมาณ ประถม 4-6 เท่านั้น ในช่วงนี้อากาศบนดอยจะหนาวมาก ชาวบ้านต้องนั่งผิงไฟฟืนกันและพอแสงแดดออกก็จะออกมานั่งผิงแดดกันเพื่อคลายหนาวได้ และที่สำคัญในช่วงเย็น กลางคืนและตอนเช้าๆ แดดออกก็จะออกมานั่งผิงแดดกัน ชาวบ้านก็ขอให้ผู้ที่มีจิตเมตตาทั้งเอกชน และรัฐบาล ช่วยหาผ้าห่มมาแจกให้ด้วยจักขอบพระคุณมาก เด็กนักเรียนเวลาไปเรียนก็ไม่ค่อยได้ใส่เสื้อกันหนาวกันเพราะยากจน ชาวบ้านบอกว่าใน หมู่บ้านได้นำเอาเศรษฐกิจแบบพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในครอบครัว จะปลูกผักกินเอง เลี้ยงไก่กินเอง หรือเลี้ยงไว้กินเนื้อ และเลี้ยงกินไข่ ยังต้องการผ้าห่มกันหนาวและเครื่องนุ่งห่มมาช่วยเหลือ
|
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
JPAGE_CURRENT_OF_TOTAL |