ปกครองไล่จับยาบ้า

วันที่ 30 เม.ย. 55 เวลา  22.00 น.

     นายอนุทิน ศรีทราผล ปลัดฝ่ายป้องกัน อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดนไชยปราการ ร่วมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. ตำบลแม่ทะลบ อำเภอไชยปราการ พร้อมกับตำรวจภูธรไชยปราการ ได้ทำการตั้งด่านสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด ในเขตตำบลแม่ทะลบ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งเป็น 2 จุดตรวจ จุดที่ 1 ตั้งที่สามแยกในหมู่บ้านแม่ทะลบ และด่านที่ 2 ตั้งที่หน้าเขื่อนเก็บน้ำแม่ทะลบ ได้พบชายขับขี่จักรยานยนต์มาจากหมู่บ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งด่านได้ขับรถจักรยานยนต์หนีหลบออกทางหน้าเขื่อน เจ้าหน้าที่จึงวิทยุแจ้งให้ชุด 2 ติดตามทันที โดยได้ขับรถจักรยานยนต์ประมาณ 4 คันตามทันที เมื่อจนตัวคนร้ายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์สีดำหมายเลขทะเบียน งวร 296 เชียงใหม่ พร้อมหมวกกันน็อค แล้วว่ายน้ำข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง และหนีไปได้ โดยเจ้าหน้าที่ไล่ตามไม่ลดละกระโดดลงน้ำตาม คนร้ายได้ทิ้งกระเป๋าที่มียาบ้าประมาณ 10 มัด จำนวนประมาณ 20,000 เม็ด ซึ่งผลิตจากเมืองยอน ประเทศพม่า จึงได้นำหลักฐานทุกอย่างกลับมาที่ว่าการอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่เพื่อส่งให้เจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการดำเนินการตามกฎหมายและติดตามเจ้าของรถมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าจะไม่พบตัวคงหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

จุฬาราชมนตรีเปิดกีฬาอิสลามภาคเหนือ “เทิดไท้องค์ราชันย์ร่วมกันต้านยาเสพติด”

วันที่ 27 เมษายน 2555 เวลา 16.00 น.

     ท่านอาศีส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เดินทางมาทำการเปิดการแข่งขันกีฬาอิสลามภาคเหนือที่บ้านยาง หมู่ที่ 12 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการของผู้นำศาสนาอิสลามภาคเหนือ 17 จังหวัดจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อ “เทิดไท้องค์ราชันย์ ร่วมกันต้านยาเสพติด” ในช่วงที่โรงเรียนต่างๆ ในภาคเหนือได้ทำการปิดภาคเรียนและเด็กเยาวชนมีเวลาว่าง จึงหาเวลาที่เหมาะนำเอาเยาวชนและประชาชนที่สนใจในเกมส์กีฬา มาทำการแข่งขันเพื่อให้เยาวชนได้มีเวลารู้จักกัน และเป็นการออกกำลังกาย แสดงความสามารถในด้านกีฬาเพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์เป็นการออกกำลังกายต้านภัยยาเสพติด ทางท่านอาศีส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เลงเห็นว่ามีความสำคัญมากและยังเป็นการนำเอาเยาวชนมาพบปะสร้างความสามัคคีกันร่วมแสดงพลังความสามารถ ในเกมส์กีฬา ที่มีกฎระเบียบกติกา การเล่น ทำให้ผู้เล่นรู้จักแพ้ รู้ ชนะ และรู้จักอภัย

     และท่านอาศีส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวอยากให้จังหวัดทางภาคใต้สงบร่มเย็นเหมือนทางภาคเหนือมีการยิ้มแย้มแจ่มใส ให้การทักทายเหมือนญาติมิตร มีการช่วยเหลือกัน ร่วมกันทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม และที่สำคัญอากาศเย็นสบาย และขอให้ทุกคนได้แสดงออกทางเกมส์กีฬาให้เต็มที่เต็มความสามารถ ผู้เล่นกีฬาจะเป็นคนที่มีความอดทนรู้จักการให้อภัย และได้มอบโล่เกียรติคุณให้กับผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ มีการแสดงของเยาวชน และมีการเปิดสนามการแข่งขันระหว่างทีม ผู้อาวุโสกองรักษาความมั่นคงภายในกองทัพภาค 3 ร่วมแข่งกับทีมผู้อาวุโสอิสลาม 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อแสดงให้เห็นว่าทาง ทหารให้ความร่วมมือกับทุกกิจกรรมของอิสลามและเป็นผู้ให้การช่วยเหลือดูแลการจัดงานในครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบงาน ซึ่งงานเริ่มวันที่ 27 -30 เมษายน 2555 เป็นเวลา  4 วัน 4 คืน

ทหารร่วมปกครองป่าไม้กำนันผู้ใหญ่บ้านจับขบวนการค้าไม้

วันที่ 27 เมษายน 2555 เวลา 08.00 น.

     นายชาตรี กิติธนดิตถ์ ปลัดอาวุโส อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดนฝาง.ร่วมกับ ร.อ.วรสิทธิ เกตุเจริญ ผู้บังคับทหารม้ากองร้อยที่4 กองบังคับควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมืองและนายพิทักษ์  เตชะใจ นักวิชาการป่าไม้ หัวหน้าชุดป้องกันป่าไม้ ชม 24 เหมืองแร่,ชม 25 น้ำยอน และนายมนัส ทองทรัพย์หัวหน้าชุดป้องกันป่าอุทยานฟ้าห่มปก พร้อมกับนายสุทัศน์ ดวงไทย กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลเวียง สนธิกำลังประมาณ 100 คน เข้าปิดล้อมหมู่บ้านซับตะเคียนหมู่ที่ 15 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพบบ้านนางดรุณี นิลกระจ่าง ไม่มีเลขที่บ้าน หลบออกจากบ้านหนีเข้าป่า และ นายจะแส จะจู อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 279 หมู่ 15 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีไม้ท่อนที่ตัดมาใหม่และแปรรูปจำนวนมาก เก็บไว้เพื่อส่งจำหน่ายนายทุน ในระหว่างที่ทำการยึดไม้ได้มีนายทุนเข้ามาขอทำการเคียรอ้างว่าเป็นไม้เพื่อสร้างวัด แต่ทางชุดไม่ยอม ทำการตรวจและยึดไม้ทั้งหมดเป็นของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป มีไม้ท่อนจำนวน 20 ท่อน และไม้แผ่นจำนวน 50 แผ่น และมีบ้านอีกหลายหลัง ที่มีการสร้างเพื่อทำการเก็บไม้ไว้จำหน่ายทางเจ้าหน้าที่ ก็จะทำการตรวจสอบต่อไป เพราะพื้นที่เป็นเขตป่าไม้แหล่งต้นน้ำลำธาร ที่ผลิตน้ำธรรมชาติให้ไหลสู่ลุ่มน้ำฝาง เพื่อใช้ประโยชน์ แต่ทุกวันนี้มีการทำลายป่าลงมาก ทางทหารจึงได้ทำการสกัดกั้นไม่ให้มีการทำลายมากกว่านี้ และส่วนทางอธิบดีกรมป่าไม้ก็มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการปราบปรามเด็ดขาด

ทางออกของชาวสวนลิ้นจี่

วันที่ 26 เมษายน 2555

     ผู้ปลูกลิ้นจี่ พื้นที่อำเภอไชยปราการ ประชุมเตรียมการแก้ไขปัญหาราคาลิ้นจี่ตกต่ำ เนื่องจากในปีนี้ลิ้นจี่ติดผลมาก หวังทางภาครัฐ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วยความจริงใจ แก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้ทันเวลา

     ณ ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมของชมรมผู้ปลูกลิ้นจี่-ลำไย อำเภอไชยปราการ โดยมีนายเทอดศักดิ์ จารุอัคระ นายอำเภอไชยปราการ เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายวีรศักดิ์ แก้วคราม เกษตรอำเภอไชยปราการ นายบุญมา กิติใจ ส.อบจ. เชียงใหม่ เขต อ.ไชยปราการ ร่วมกันปรึกษาหารือกับแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ ในพื้นที่อำเภอไชยปราการ โดยที่ประชุมสรุปสถานการณ์ว่าผลผลิตลิ้นจี่ในปีนี้ ติดผลเป็นจำนวนมาก 15,700 ตันเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา อากาศหนาวจัด และขณะนี้เกษตรกรเริ่มเก็บผลผลิตลิ้นจี่ออกสู่ตลาด และจะมีช่วงที่ลิ้นจี่ออกสู่ตลาดมากที่สุดคือ ช่วงกลางเดือน พฤษภาคม คาดว่าผลผลิตจะล้นตลาด เกษตรกรจะประสบปัญหาราคาตกต่ำ และลิ้นจี่มีจุดอ่อนอยู่ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน จึงมีความต้องการให้ทางรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ก็มีการช่วยเหลือในเรื่องค่าบริหารจัดการ และการช่วยเหลือค่าขนส่ง แต่ก็ยังเป็นการช่วยเหลือทางอ้อม ในการให้เงินสนับสนุนผู้ประกอบการรับซื้อลิ้นจี่ ไม่ใช่การช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง นอกจากนั้น ยังมีขั้นตอนการทำงานหลายอย่าง ที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินการเป็นอย่างมาก อยากให้มีการทบทวนขั้นตอนการดำเนินงาน ให้ง่ายกว่านี้ และรวดเร็วกว่านี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจริงๆ และขอให้มีการช่วยกระจายผลผลิตในช่องทางอื่นๆที่เป็นไปได้ด้วย ทั้งนี้ในเบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการวางแผนที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการหลายอย่าง มีหลายภาคส่วนที่รับผิดชอบการดำเนินการ แต่จะดำเนินการช่วยเหลือต่อเมื่อ ราคาลิ้นจี่ ต่ำกว่าราคากิโลกรัมละ 15 บาท 80 สตางค์ จึงจะมีการดำเนินการช่วยเหลือตามมาตรการที่ได้วางแผนไว้