ทหารร่วม อส.ฝาง พร้อม ตชด.334 วิ่งไล่จับยาบ้า

 วันที่ 22 กุมภาพันธ์  2557 เวลา 19.00 น.

               นายมนัส  ขันใส  นายอำเภอฝาง และพ.อ.วิเศษเวโรจน์  วิเศษศรี  ผู้บังคับหน่วยการข่าวทหารกองกำลังผาเมืองร่วม พ.ต.ท.ฐิติพงศ์   เจนกิจเจริญชัย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 334 แม่อาย รับทราบจากการข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าส่งนายทุน จึงได้ร่วมวางแผนและให้เจ้าหน้าที่ ทั้งสามฝ่ายได้ร่วมสนธิกำลัง 10 นาย ออกตรวจพื้นที่ตามที่สายข่าวแจ้ง ได้เข้าไปในพื้นที่ บ้านปางปอยหมู่ที่ 9 ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และได้วางกำลังในป่าซึ่งมีถนนทางเท้าที่เชื่อมต่อ จากบ้านจะโต๊ะหมู่ที่ 9 ตำบลบ้านหลวง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ถึงบ้านป่าหนา หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ทะลบ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่  สายข่าวแจ้งแน่ชัดว่ากลุ่มขบวนขนส่งยาบ้าจะใช้เส้นทางนี้แน่นอน ในเวลาต่อมาได้พบชายประมาณ 3 คนเดินสะพายย่ามมาตามเส้นทาง เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น ทั้ง 3 คนได้วิ่งขึ้นบนเนินเขา แต่มีคนหลังสุดได้โยนย่ามทิ้ง และหนีไปได้ทั้งหมด ได้ตรวจย่ามดังกล่าวพบว่ามียาบ้าจำนวน 5 ก้อนรวมจำนวนยาบ้าประมาณ 10,000 เม็ด และทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานได้ขอกำลังเสริมทั้ง ทหาร อส.ฝาง ตชด. 334 ได้กระจายปิดล้อมเขาแล้วแต่ก็ไม่พบใครเพราะเป็นภูเขาและมีช่องทางที่จะหนีออกนอกพื้นที่ได้ง่ายเพราะชำนาญช่องทางมากกว่าเจ้าหน้าที่ จึงได้นำยาบ้าทั้งหมดมาทำการแถลงข่าวและส่งมอบให้กับเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง จังหวัดเชียงใหม่เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไปแล้ว

ทหารพรานปะทะเดือดชายแดนแม่อายตรงข้ามตายยาบ้าอื้อ

วันที่ 19 กุมภาพันธ์  2557 เวลา 15.00 น.

                พันเอกกษิดิศ   หลักกรด รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เข้าตรวจพื้นที่ชายแดนจุดสามเส้าน้อยทิศเหนือของบ้านห้วยส้าน หมู่ที่ 10  ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มีขบวนการลักลอบนำยาบ้านอกประเทศเข้ามาในพื้นที่เขตอาณาจักรไทยเข้ามาในเขตไทยประมาณ 500 เมตร ซึ่งทาง พันเอกไพโรจน์   ยะวิญชาญ  หัวหน้าฝ่ายทหารพรานกองทัพภาค3ส่วนแยก1 กองกำลังผาเมือง สั่งให้ทหารพรานออกซุ่มในพื้นที่ชายแดนประมาณ 1 ชุดปฏิบัติการเข้าทำการซุ่มในพื้นที่ ซึ่งจากแหล่งข่าวทหารแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำยาบ้าเข้าในพื้นที่ตรงจุดสามเส้าน้อย ได้เกิดปะทะกันประมาณ 01.30 น. ปะทะกันนานหลายนาที หลังจากที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้หยุด และออกนอกเขตไทยก็มีเสียงปืนยิงตามเสียงหลายนัด และขว้างระเบิดมือมาได้ระเบิด 1 ลูก ทางทหารพรานได้ยิงโต้ตอบไปหลายชุดในทางที่มีประกายแสงของปืนฝ่ายรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ได้ยินเสียงร้องโหยหวนคาดว่ามีคนถูกยิงแน่นนอน แต่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าในพื้นที่ได้ ต้องรอจนกว่าสว่างเห็นชัดเจน ก็ได้ทำการตรวจพื้นที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดการปะทะประมาณ 30 เมตร ตรงห้วยแล้ง มีศพชายไม่ทราบชื่อ แต่งตัวคล้ายทหารว้าแดง นอนตาย 1 ศพ ด้านหลังมีเป้แบบทหารสีเขียว 1 ใบ ตรวจภายในเป้พบยาบ้า 4 หมื่นเม็ด ลูกระเบิด M 67 (ลูกเกลี้ยง) และระเบิดมือแบบขว้างของจีนแดง อย่างละ 1 ลูก ยังไม่ได้ใช้  ในการตรวจพิสูจน์ทราบนั้น มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแม่อาย, อัยการจังหวัดฝาง, แพทย์โรงพยาบาลแม่อาย, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแม่อาย และผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่ทหารพรานทำการป้องกันคณะอีกจำนวน 4 ชุดปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยของคณะที่เข้าตรวจพิสูจน์ในพื้นที่ ทำเอาคณะที่เข้าตรวจสอบสะบักสบอมตามๆ กันเพราะต้องไต่เขาขึ้น มากลงน้อยสูงชันมาก ทาง พันเอกกษิดิศ   หลักกรด รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการปะทะกันนั้น เป็นเรื่องที่ทางทหารพรานได้เข้าทำงาน และป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในพื้นที่ประเทศไทย และยอมรับว่ามีการลักลอบเข้าทุกเขตเพราะว่าเป็นชายแดนและเป็นป่ารกทึบ และชันมาก ยากต่อการป้องกันเพราะเขตกว้างและยาวมาก แต่กำลังทหารทุกฝ่ายก็ได้ทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันการนำยาเสพติดเข้าในไทย

ทหารตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นสนขนาดใหญ่ถูกเผา

วันที่ 17 กุมภาพันธ์  2557 เวลา 07.00 น.

                 พันเอก กัณตพจน์   เศรษฐารัศมี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4  กองกำลังผาเมือง และนายชาตรี  กิตติธนดิตถ์  นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้ทหารพร้อมผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน บ้านสินชัย หมู่ที่ 6 ตำบลหนองบัว  อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เดินเท้าขึ้นเขาตรวจสอบป่าอุทยานแห่งชาติต้นสนขนาดใหญ่ถูกเผาลำต้นตรงตอ เพื่อให้เกิดน้ำมันตรงที่เผาเพื่อเอาแก๊ะหรือเอาไม้ส่วนที่เผาไปขายเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการก่อไฟทำอาหาร ซึ่งได้เงินไม่กี่ร้อยบาท แต่ต้นสนจะต้องตายและล้มในที่สุด จากการเข้าตรวจสอบแล้วต้นไม้สนขนาดใหญ่ถูกเผาและถูกถากเอาเศษไม้เพียงส่วนน้อย จนต้นสนขนาดใหญ่จำนวนมากเหลือฐานต้นเพียงนิดเดียวและจำนวนมากฐานต้นรับน้ำหนักต้นไม่ไหวก็ล้มลงตาย เป็นการสูญเสียที่ไม่เกิดประโยชน์ เหมือนฆ่าช้างเอางา ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไม่ช่วยกันแก้ปัญหาก็จะทำให้ต้นสนที่มีอายุ 100 กว่าปีขึ้นไปถูกเผาทำลายจนหมดป่า ต่อไปก็จะไม่มีต้นไม้ดูดซับน้ำและจะเกิดดินภูเขาพังทลายเข้าในหมู่บ้านและทำให้สูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำซึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทางนายชาตรี  กิตติธนดิตถ์  นายอำเภอไชยปราการ ได้นัดประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านและองค์กรเอกชนเข้าร่วมในการปรึกษาหาทางแก้ไขต่อไป โดยจะขอกำลังทหารเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานดอยผ้าห่มปกในการตรวจจับผู้ที่เผาทำลายต้นสนขนาดใหญ่ เพื่อนำมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป