**ดุลยภาพความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐ จีน ไทย และอาเซียน พิมพ์
เขียนโดย VRP   

ในฐานะเดินทางท่องเที่ยวถนน  R3a  R3b (ลาว พม่า จีน) ได้เห็นจีนพัฒนาอิทธิพลแผ่กับผลประโยชน์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างน่าตกใจ และเพื่อนบ้านต่างหวาดระแวงจีนอย่างมาก เพราะจีนมีเงินทุนมหาศาลเข้ามาลงทุนด้านการบริโภคโดยนึกถึงประโยชน์ของจีนเป็นสำคัญ

                กรณีด้านการท่องเที่ยวอย่างเดียว ที่นักธุรกิจเดินทางตามถนน R3a (อาร์สามเอ) ไม่ว่าไกด์ รถบัสนำเที่ยวจากจีนมาถึงลาว จากลาวมาถึงไทย และรถบัสในเมืองไทย โรงแรมสถานแหล่งท่องเที่ยว คนไทยคนลาวค้าขายไม่ทัน พ่อค้านักธุรกิจจีนหลอก ที่คนจีนทะลุทะลวงทุกช่องทางบนผลประโยชน์ได้มากกว่า

                กรณี ตัวอย่าง : การเข้ามารับซื้อผลผลิตลำไย ตั้งแต่การตั้งจุดรับซื้อผลผลิต การเช่าโรงงาน การนำเครื่องอบแห้งเข้ามา  แปรรูปส่งไปขายยังประเทศจีน เป็นระบบที่เราศึกษาดูได้หลายแห่งในอำเภอฝาง นี่เป็นตัวอย่างเดียวที่ กลุ่มประเทศอาเซียนวิตกทุนของจีนที่ไร้ขีดจำกัด และการควบคุมของรัฐอย่างเข้มข้น

                กรณีหลังรัฐประหารร่วม 10 เดือน (22 พฤษภาคม 2557)  ท่าทีของสหรัฐ และอียู ตามจุดยืนเดิมคือประเทศไทยต้องกลับไปสู่ประชาธิปไตยเลือกตั้งโดยเร็ว การที่คณะรัฐประหาร คสช. หันไปแสดงความสนิทสนมกับจีน และนำประเทศเข้าไปผูกพันกับผลประโยชน์ของจีนอย่างน่าวิตกมากขึ้น โดยเฉพาะคณะรัฐบาลทหารไปทำสัญญารถไฟกับจีน โดยไม่มีข้อมูลเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการหรือข้อผูกพันใดๆ กับทุกฝ่าย (ล่าสุดจีนคิดดอกเบี้ยเงินกู้สร้างทางรถไฟ 2-4 % โครงการต้องล่าช้าออกไป)

                ขอให้เชื่อเถอะว่า สินค้าคุณภาพ บริการของจีนห่วยแตกกว่าไทย...จีนมีเงินทุนมหาศาลอย่างแน่นอน แต่ในระยะยาวจีนไม่อยู่ในฐานะเพิ่มสมรรถภาพ-ประสิทธิภาพ การผลิตของไทยให้ไต่ระดับสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การบริหารจัดการ เครือข่ายตลาดโลก จะว่าไปแล้วเงินหยวนอยู่ในฐานะไม่ดีกว่าเงินบาทไทย หรือพูดแบบชาวบ้านอาจจะต่ำกว่าไทยในบางครั้งบางเรื่องด้วยซ้ำ...ถ้าหากไทยไม่มีการรัฐประหารบ่อยครั้งป่านนี้ ไทยอาจเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในอาเซียนอย่างสบาย เพราะมีทั้งทรัพยากรธรรมชาติ องค์ความรู้ ทำให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย

                ประเทศไทยถือเป็นจุดเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจกับโลกตะวันตก มายาวนานหลายทศวรรษ ร่วมกันระหว่าง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น  เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทยมีความจำเป็น หรือไม่เข้าสู่กับดักอิทธิพลของจีน ที่วางหมากกลเอาไว้ รัฐบาลทหาร คสช. คิดอย่างรอบด้านหรือไม่ว่าสักวันหนึ่งคณะรัฐบาลทหารก็ต้องออกไป

                ปัจจุบันโลกได้หมดยุคสงครามเย็นลงแล้ว มีแต่สงครามทางเศรษฐกิจ การที่สหรัฐอเมริกา และอียู มาตอกย้ำให้ คสช.ไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และอาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป เพราะความหวังของอาเซียน อยู่ที่จุดยืนของประเทศไทย

                “พม่าบอบช้ำการปกครองแบบเผด็จการทหารมายาวนาน สู่การเป็นประชาธิปไตย และกำลังจะมีการเลือกตั้งในปี 2558 นี้  ระบบการพัฒนาระบบประชาธิปไตยไทยมีปัญหาหรือไม่ ทำให้ประชาชนคนไทยขาดความเชื่อมั่นประกอบกับการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจบ่อยครั้ง....ประชาชนลาวทำไมไม่ชอบการลงทุนของจีนและไม่ชอบเงินหยวน รักเงินบาทไทย” สร้างความสัมพันธ์อันดีกับไทยมาโดยตลอด

                ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่เดินทางเข้าออกและศึกษา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน เป็นห่วงนโยบายภายใต้ คสช. การเมืองระหว่างประเทศ ในช่วงรัฐบาลทหารในขณะนี้ ต่อนโยบายอาเซียน สหรัฐ-อียู-จีน ต้องมี มีดุลยภาพด้วยเหตุด้วยผลอย่างเพียงพอ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพของประเทศในทุกด้านอย่างสมดุล ที่ชาติในอาเซียนใช้กันในการถ่วงดุลมหาอำนาจระหว่าง จีน-สหรัฐ-อียู ในแถบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรื AEC (Asean Economics Community)

โดย...คน  บนดอย

                

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com