** โปรแกรมแพ็คเกจพิเศษ หลวงพระบาง-ทุ่งไหหิน เมืองมรดกโลกและแอ่งอารยะธรรมของประเทศลาว พิมพ์
เขียนโดย VRP   

 

เมืองเล็กๆ ที่สืบเชื้อสายบรรพบุรุษเดียวกับชาวไทย ที่มีประชากรประมาณ  6  ล้านคน แต่มีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า 236,800 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ เหมือนครั้งหนึ่งของภาคเหนือบ้านเฮา

 

                                ในอดีต หลวงพระบาง เคยเป็นเหมืองหลวงเก่าของลาวมาก่อน หรือที่หลายคนรู้จักในนาม อาณาจักรล้านช้าง ..... เมืองที่องค์การยูเนสโก้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นเมือง มรดกโลก ชื่อเสียงของหลวงพระบางจึงเป็นที่รู้จักของชาวโลก.... ด้วยเมืองที่สงบ อบอุ่นด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรีจิต เหมือนยุคสมัยก่อนๆของบ้านเรา.... หลวงพระบาง  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาน ไหลมาบรรจบรวมกับแม่น้ำโขง ช่องที่คดโค้งสวยงาม.... มองดูรอบๆ ไปทางไหน ดูสดสวย อุดมสมบูรณ์ไปหมด…………….

 

                                ก่อนมีชื่อเรียกขาน หลวงพระบาง มีชื่อเรียกว่า เมืองชวา และเปลี่ยนมาเป็นชื่อ เมืองเชียงทอง.... กระทั่ง กษัตริย์ยุคขอม ได้มอบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ชื่อว่า พระบาง เป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล.... และเจ้าฟ้างุ้ม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น หลวงพระบาง.... เมืองที่คนไทยไปแล้วอยากไปอีก.... กับ หลวงพระบาง เมือง มรดกโลก”………..

 

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** *

 

วันแรก                   ไชยปราการ-ฝาง จ.เชียงใหม่-.แม่จัน-เชียงของ จ.เชียงราย –ที่พัก

 

 ทองเทยว

 

 

 

 

 

 

 

13.00 น.                คณะพร้อมกันที่จุดนัดหมาย อ.ไชยปราการ และ อ.ฝาง ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ ตามเส้นทางถนน

 

                           สายฝาง-ท่าตอน-แม่จัน-เชียงของ ( ระหว่างทางคณะสามารถแวะลงปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ตามปั๊มต่างๆได้

 

                          โดยบอกให้คนขับรถ)

 

16.00 น.                เวลาโดยประมาณ ถึง อ.เชียงของ นำคณะเข้าเช็คอินที่โรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซด์  ให้คณะพักผ่อนหรือ

 

                        เดินเล่นตามอัธยาศัย (โรงแรมติดแม่น้ำโขงมองเห็นฝั่งประเทศลาว บ้านห้วยทราย )

 

 18.00  น.           พาคณะรับประทานอาหารเย็น(มื้อที่1) ณ ห้องอาหารของโรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซด์   เสร็จพาคณะเข้าที่พัก

 

                        พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

 

 

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สอง                 เชียงของ - ห้วยทราย-หลวงพระบาง ( โดยเรือ )

 

06.00 น.                คณะลงมารับประทานอาหารเช้า (มื้อที่2) ณ ห้องอาหารของโรงแรม เสร็จแล้วกลับไปทำภารกิจส่วนตัวที่ห้องพร้อมเตรียมสัมภาระกระเป๋าลงมาไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์ และเตรียมตัวเดินทางไปยังด่านชายแดนไทย

 

07.00  .             เตรียมตัวขึ้นรถตู้ เดินทางไปยังด่านชายแดน

 

07.30 น.              พาคณะผ่านด่านพิธีการตรวจสอบเอกสารขาออกของฝั่งไทยเสร็จแล้ว    พาคณะนั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 สู่ด่านห้วยทราย สปป.ลาว และผ่านพิธีการตรวจสอบเอกสารขาเข้าของ สปป.ลาว ณ ด่าน

 

                            ห้วยทราย

 

08.30  น.            พาคณะไปลงเรือ   บนเรือทุกท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมตามถนัด อาทิเช่น ร้องคาราโอเกะ หรืออื่นๆตามสะดวก พร้อมนั่งชื่นชมธรรมชาติและทิวทัศน์ของ 2 ฝั่งแม่น้ำโขง                                   

 

ตอนเที่ยง           คณะรับประทานอาหารกลางวันบนเรือ(มื้อที่3) หลังอาหารทุกท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมตามถนัดต่อหรือจะเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัยไม่ว่ากัน

 

ตอนเย็น     ถึงหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก     พาคณะเช็คอิน เก็บสัมภาระเข้าที่พัก

 

นค่ำ       พาคณะรับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4) ณ.ร้านอาหาร..................เสร็จพาคณะเดินเที่ยว                    ตลาดกลางคืน(Night Market) ของเมืองหลวงพระบาง เสร็จกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

 

 

 

 

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สาม         ตักบาตรข้าวเหนียว-พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง-วัดเชียทอง-พระธาตุภูสี—บ้านผานม-น้ำตกตาดกวางสี

 

05.30 น.                ออกจากที่พัก รถมารอรับเพื่อเดินทางไปตักบาตรข้าวเหนียว มีพระสงฆ์-สามเณรมากถึง 300-400 รูป จากนั้นพาคณะไปเดินเที่ยวชมตลาดเช้าท้องถิ่นของชาวหลวงพระบาง เสร็จแล้วพาคณะกลับคืนที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่5) ที่โรงแรมที่พัก จากนั้นพาชมศิลปวัฒนธรรมทั่วเมืองหลวงพระบาง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนและถูกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ในวันที่ 20 ธันวาคม 2538 หรือ ค.ศ.1995 เมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบซึ่งมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านสองสายได้แก่แม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน จึงทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงาม เพราะมีสายน้ำล้อมรอบไว้สองด้าน นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบก็ถูกโอบอุ้มไว้ด้วยภูเขาน้อยใหญ่ เสมือนเป็นกำแพงล้อมรอบพื้นที่ราบอันสมบูรณ์นี้เอาไว้ อีกทั้งยังทำให้วิวทิวทัศน์เขียวขจีตลอดปี จากนั้นนำคณะเข้าชมหอพิพิธภัณฑ์ (พระราชวังเก่าของพระเจ้าแผ่นดิน) เสร็จแล้วเข้ากราบนมัสการพระพุทธรูปทองคำปางห้ามญาติ ซึ่งชาวหลวงพระบางเรียกกันว่า องค์พระบาง อันเป็นที่มาของชื่อ เมืองหลวงพระบาง

 

                พาคณะเดินทางไปเที่ยวชมวัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สุดยอดแห่งความงามของสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ของชาวหลวงพระบาง พระอุโบสถมีหลังคาซ้อนกัน 3 ชั้น ลดหลั่นลงตามลำดับอย่างวิจิตรบรรจงและคล้อยต่ำลงจนแทบถึงพื้น ตามฝาผนัง เพดานและเสา คานเพดานจะเป็นลวดลายสีทองบนพื้นดำ พาชมโรงเก็บพระราชโกศของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งฝาผนังด้านหน้าเป็นไม้แกะสลักที่งามอร่ามด้วยสีทองจากฝีมืออันประณีตของช่างเพียตัน พาคณะขึ้นพระธาตุภูสี ซึ่งตั้งอยู่จุดใจกลางของเมืองหลวงพระบาง บนยอดสูงสุดของพระธาตุ ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางทั้งสี่ด้าน

 

ตอนเที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่6) ณ ร้านอาหาร........................ เสร็จ

 

                     พาคณะเดินทางไปยังบ้านผานม เพื่อให้ท่านได้เลือกชมและซื้อผ้าแพร

 

                     ไหม ซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวบ้านผานม(ชนเผ่าลื้อ) จากนั้นนั่งรถไปยัง

 

                      น้ำตกตาดกวางสี ระยะทาง 35 กม. เสร็จกลับคืนสู่เมืองหลวงพระบาง นำ

 

                      ท่านเข้าสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อรับคำอวยพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งชาย-หญิง

 

                      หนุ่ม-สาว ของชาวหลวงพระบาง  

 

ตอนเย็น             นำคณะเข้ารับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร(มื้อที่7)  พร้อมทั้งชมการแสดงฟ้อนรำของน้องๆเยาวชนท้องถิ่น (ท่านสามารถร่วมรื่นเริง ฟ้อนรำวง ไปด้วยได้)   

 

ตอนค่ำ               พาคณะเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะเดินเล่นชมเมืองหลวงพระบางยามค่ำคืนอีกครั้งก็ได้ไม่ว่ากัน

 

 

 

 

 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สี่                   หลวงพระบาง-เมืองคูน-เชียงขวาง-โพนสวรรค์-ทุ่งไหหิน-ที่พัก

 

 ตอนเช้า                           คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่8) ณ ห้องอาหารโรงแรม........................เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม.เสร็จแล้ว

 

                         เดินทาง ออกเดินทางออกจากหลวงพระบางไปสู่เมืองโพนสวรรค์ แขวงเชียงขวาง เมืองแห่งทุ่งไหหิน

 

 

 

ตอนเที่ยง         แวะรับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่9) ที่ร้านศาลาพูคูน เมืองคูน

 

ตอนบ่าย           ถึงเมืองโพนสวรรค์ แขวงเชียงขวาง พาคณะเดินทางออกนอกตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10

 

                          กิโลเมตร เพื่อไปเที่ยวชม “ทุ่งไหหิน” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งยังคงเป็น 

 

 

 

                   

 

                          ปริศนาของนักโบราณคดีว่าทุ่งหญ้าเขียวขจีที่เต็มไปด้วยไหขนาดใหญ่นั้นสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรและใครเป็น

 

                         ผู้สร้าง ไหบางลูกมีขนาดใหญ่ 5 คนโอบ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้พบเห็น สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ที่

 

                          มองเห็นทัศนียภาพแบบ 360 องศา    มองเห็นทิวเขาน้อย-ใหญ่ที่สวยงาม จนได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวชาว

 

                         ต่างประเทศว่าเป็น ”สวิสเซอร์ลาว”  ซึ่งมีความหมายว่า  ”สวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองลาว”  นั่นเอง  นำคณะเข้า

 

                         ชมถ้ำและหลุมหลบภัยในครั้งสงครามปลดปล่อยสปป.ลาว  เสร็จพาคณะเข้าที่พัก

 

ตอนเย็น            นำคณะเข้ารับประทานอาหารเย็น(มื้อที่10)

 

ตอนค่ำ             พาคณะเที่ยวชมตัวเมืองโพนสวรรค์ยามค่ำคืน เดินเล่นตลาดไนท์โพนสวรรค์เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก

 

                         ของท้องถิ่น  หรือเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย                        

 

 

 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่ห้า                 เชียงขวาง-อุดมไชย-- ที่พัก

 

ตอนเช้า                 คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่11) ณ ห้องอาหารโรงแรม.....

 

                            เสร็จแล้วออกเดินทางออกจากเมืองแห่งทุ่งไหหิน แอ่งอารยะ

 

                            ธรรมของประเทศลาว ย้อนกลับเข้าผ่านเมืองคูน แขวงเชียงขวาง

 

                             แวะเที่ยวชม วัดเพยและพระธาตุฝุ่นเมืองคูนเก่า  จากนั้นเดินทาง

 

                             ต่อไปยังแขวงอุดมไชย ระหว่างทางยังได้เห็นป่าไม้และทิวทัศน์

 

                            ที่สวยงามประกอบกับเขาหินปูนที่มีรูปร่างต่างๆสวยงาม ลาววันนี้ยังสามารถรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างดี

 

                             และสวยงามสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

 

ตอนเที่ยง              พาคณะรับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่12) ณ ร้านอาหาร............................

 

ตอนบ่าย             ออกเดินทางต่อไปยังแขวงอุดมไชย หรือเมืองไชยซึ่งเป็นเมืองหลวงของแขวงอุดมไชย ตั้งอยู่ในวงล้อมของ

 

                            แขวงพงสาลี หลวงพระบาง ไชยบุรี และหลวงน้ำทา สมัยสงครามกู้ชาติและเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 

                           ทางหลวงหมายเลข 1 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 เคยเป็นศูนย์กลางที่จีนใช้ส่งความช่วยเหลือผ่านไปยัง

 

                           ขบวนการประเทศลาวในช่วงปี พ.ศ. 2513 แต่ในปัจจุบัน อาคารกงสุลเก่าของจีนได้เปลี่ยนแปลงเป็น

 

                           โรงแรมไปแล้ว รัฐบาลลาวตอบแทนจีนที่ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างถนนด้วยการให้สัมปทานไม้

 

                           ในเขตหุบเขาแขวงอุดมไชย ส่งผลให้ป่าไม้บริเวณนี้ถูกทำลายลง ปัจจุบันจีนมีอิทธิพลในรูปของการค้า

 

                            มีตลาดใหญ่ๆ ขายของมากมาย

 

ตอนเย็น              พาคณะรับประทานอาหารเย็น(มื้อที่13) ณ.ร้านอาหาร.........................

 

ตอนค่ำ                พาคณะเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะเดินเล่นตลาดมืด(Night Market) ของเมืองไชยก็ตามสะดวก

 

 

 

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่หก              อุดมไชย - หลวงน้ำทา – ห้วยทราย-เชียงของ-ฝาง-ไชยปราการ

 

ตอนเช้า                คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่14) ณ ห้องอาหารโรงแรม.................พร้อมเตรียมสัมภาระ เช็คเอาท์

 

                            ออกเดินทางจากเมืองอุดมไชยเพื่อเดินทางต่อไปยังหลวงน้ำทา

 

                                           เมืองหลวงน้ำทาในช่วงสงครามอเมริกา พ.ศ. 2498-2518   พื้นที่แถบนี้เคยเป็นสมรภูมิรบ ระหว่าง

 

                           ขบวนการประเทศลาวและกลุ่มกองโจรของพวกชาวเขา   ส่วนใหญ่เป็นม้ง ที่ได้รับการหนุนหลังจากหน่วย-

 

                           งานซีไอเอของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตัวเมืองถูกทำลายโดยไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องย้ายไปสร้างเมืองใหม่ที่

 

                            ริมฝั่งแม่น้ำทา ห่างจากที่ตั้งเดิมมาทางเหนือ 7 กิโลเมตร ใกล้กับทางหลวงที่ใช้ไปยังเมืองสิงห์ อุดมไชย

 

                            และบ่อเต็น ประกอบด้วยคนหลายชนเผ่า แม้ว่าทางการจะย้ายเมืองหลวงใหม่มาแล้วก็ตาม แต่สถานที่ท่อง

 

                           เที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองเก่า ชาวหลวงน้ำทาเรียกเขตนี้ว่า  “เมือง”  และเรียกเขตที่สร้างใหม่ว่า ”แขวง”

 

                           นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้ามาแวะพักเพื่อเดินทางต่อไปยังบ่อแก้ว หรือไม่ก็ไปจีน หรือไปยังเมืองสิงห์

 

                           ภายตัวเมืองหลวงน้ำทามีที่พักแบบเกสต์เฮาท์ค่อนข้างเยอะ

 

                                          • ปัจจุบันหลวงน้ำทามีถนนสายกว้าง ถ้าเดินมาทางเชิงสะพานด้านตะวันออกของถนนสายหลักใน

 

                            ยามเช้า จะเห็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีรถขนส่ง ถัดจากเมืองประมาณ

 

                            2 กิโลเมตรไปตามเส้นทางเมืองสิงห์ จะพบศูนย์หัตถกรรมหลวงน้ำทาซึ่งสหภาพยุโรปเป็นผู้ออกเงินสร้าง

 

                            เพื่อให้มีที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมของชาวบ้าน ภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นที่อยู่อาศัย

 

                           ของชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ ม้ง ขมุ ไทเหนือ ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทยวน ไทลื้อ ละวิด ละเมด สีดา อีก้อ

 

                            มูเซอ กะลอม ไทยใหญ่

 

ตอนเที่ยง              พาคณะรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่15) ณ ร้านอาหาร........................เสร็จแล้วออกเดินทางต่อไปยัง

 

                            ด่านห้วยทราย

 

15.00 น.                ถึงด่านห้วยทราย นำท่านผ่านพิธีการขาออกจากฝั่งลาว พาคณะนั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4                            สู่ด่านไทย อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อทำพิธีการขาเข้าของฝั่งไทย

 

17.00 น.               แวะรับประทานอาหารเย็น (มื้อที่16)    ณ ร้านอาหาร.................................. ก่อนเดินทางกลับสู่ อ.ฝางและ

 

                           ไชยปราการ ตามเส้นทางเดิม กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ..อย่างมีความสุขพร้อมความประทับใจ!!!!!!!!                      

 

 

 

 

 

 

 

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com