**โปรแกรมทัวร์กัมพูชา 4 วัน 3 คืน

พิมพ์ PDF

วีอาร์พี ทัวร์ แอนด์ ทราา เวล(vrp tour & travel)

 Vrp tour & travel ใบอนุญาตเลขที่ 21/00573

 

 

 

 

 

โปรแกรมทัวร์กัมพูชา 4 วัน 3 คืน   

16 ก.ค. 59   วันแรก   ฝาง – เชียงใหม่ – กทม.-ล่องเรือสำราญแม่น้ำเจ้าพระยา


08.00 น.   คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศมุ่งไปสู่สนามบิน

                 นานาชาติเชียงใหม่

11.00  น.  ถึงสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ นำคณะเข้าในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อนบ้านเตรียมขึ้นเครื่อง

12.05  น.         คณะบินลัดฟ้าสู่สนามบินดอนเมืองโดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่... บริการอาหาร  กลางวันและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน (มื้อที่ 1)

13.20  น.         คณะถึงสนามบินดอนเมือง เดินทางไปที่พักโรงแรม Tong Tara Riverview โดยรถตู้ปรับอากาศ

15.00   น.            เช็คอินเก็บสัมภาระ พักผ่อนตามอัธยาศัย

17.30   น.            ออกเดินทางไปท่าเทียบเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อลงเรือเจ้าพระยาครุยส์

18.45-19.00 น.  ลงทะเบียน / ลงเรือ  /  เรือออก

19.150    น.       รับประทานอาหารเย็นบนเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ (มื้อที่ 2) ชมการแสดง   บนเรือ ชมทิวทัศน์- สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

 

21.00    น.        เรือกลับถึงท่าเทียบเรือ รถตู้ปรับอากาศรอรับกลับเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือ เดินเล่นที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 600 เมตร  

17 ก.ค. 59  วันที่ 2  กทม.-สระแก้ว-ปอยเปต- เสียมเรียบ- องค์เจ็ก องค์จอม- พนมกุเลน

 

03.00    น.      เช็คเอ้าท์ออกจากที่พักโรงแรม ออกเดินทางโดยรถตู้ สู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

06.45     น.        แวะปั๊ม ปตท.วัฒนานคร ทำกิจวัตรประจำวันพร้อมรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 3) เสร็จแล้วออกเดินทางต่อ

08.30     .        ถึงตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ดำเนินพิธีการผ่านแดน ตรวจเอกสารผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ด่านปอยเปต โดยทางทีมงาน    จะอำนวยความสะดวกเรียบร้อย จากนั้นเปลี่ยนรถเป็นรถปรับอากาศฝั่งเขมร ออกเดินทางผ่าน  ปอยเปต สู่เมืองศรีโสภณ สู่ จ.เสียมเรียบ ตามถนนหมายเลข 6 ของกัมพูชา

10.30   น.         เดินทางถึง จ.เสียมราฐ จากนั้นนำท่านสักการะ องค์เจ็ก องค์จอม พระพุทธรูปพี่น้องคู่บ้านคู่เมืองชาวเสียมราฐมาช้านานและเป็นที่เคารพนับถือของชาวเขมร ชมหัวกะโหลกมากมายในครั้งที่สมัยเขมรแดงปกครองและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่วัดใหม่

12.00  น.         บริการอาหารกลางวันที่ เมืองเสียมเรียบ (มื้อที่ 4) 

13.00 น.          จากนั้นนำท่านเดินทางไปนมัสการ องค์พระนอน เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากกองหินธรรมชาติก้อนใหญ่ โดยฐานขององค์พระยังคงเป็นธรรมชาติ แกะสลักเอาเฉพาะยอดหินซึ่งมีการสร้างโบสถ์ลอยฟ้าเล็กๆเพื่อกันแดดฝน ณ วัดพนมกุเลน ชมศิวลึงค์พันองค์ใต้น้ำซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเสียมราฐ ศิวลึงค์พันองค์นี้ใช้แทนฤาษีหนึ่งพันตน ที่ถูกสร้างขึ้น ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 นอกจากศิวลึงค์แล้วยังมีรูปวิษณุเทพ ที่ถูกแกะสลักรวมอยู่ด้วย

18.00 น.          รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร...... (มื้อที่ 5) อาหารแบบนานาชาติ อร่อยมาก พร้อมชมการแสดงนาฎศิลป์พื้นเมือง (ระบำอัปสรา) หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเที่ยวชมเมืองเสียมราฐยามค่ำคืน

 

18 ก.ค. 59  วันที่ 3     : ปราสาทบันทายสรี - ปราสาทบันทายสำเหร่- ปราสาทตาพรม-นครธม  -  ปราสาทบายน- นครวัด 


06.30 น.          บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 6) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปชม ปราสาทบันทายสรี (Banteay Srei) สร้างตอนปลายสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมินทร์ (พ.ศ.1510) เป็นปราสาทหลังเล็กๆกลุ่มหนึ่ง สร้างด้วยหินทรายสีชมพูแกะและแกะสลักภาพนูนสูงได้อย่างสวยงามมาก จากนั้นนำท่านชม ปราสาทบันทายสำเหร่ (Banteay Samrei) สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 องค์ปราสาทคล้ายกับปราสาทหินพิมาย และนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทตาพรหม ซึ่งสร้าง

                        ในปี พ.ศ.1729 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศถวายแด่พระราชมารดาเป็นวัดในพุทธศาสนา เป็นปราสาทที่สวยงามและมีมนต์ขลังมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากให้ความสนใจปราสาทนี้มากพอสมควร 

12.00 น.          บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร....  อาหารส่วนมากเป็นแบบภาคกลาง(มื้อที่ 7) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองพระนคร หรือ นครธม ชมความสวยงามสะพานนาคราชซึ่ง เป็นสะพานที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์เขมรใช้เป็นทางเสด็จผ่านเข้าออกเมืองนครธม ชม ประตูเมือง ที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศ ชม ปราสาทบายน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอังกอร์ธมหรือนครธม ถือว่าเป็นสุดยอดของปราสาทเขมร เมื่อท่านได้เข้าไปสัมผัสยังปราสาทแห่งนี้จะรู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา มีเสน่ห์มาก จากนั้นนำท่านชม สิ่งมหัศจรรย์ที่เคยติด 1 ใน 7 ของโลก ที่ ปราสาทนครวัด ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.1650-1720 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ชมรูปสลักนางอัปสรนับหมื่นองค์ ชมภาพแกะสลักนูนต่ำ การกวนเกษียรสมุทร ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ ชมภาพการยกกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 โดยมีภาพกองทัพของเสียมกุก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเราชาวไทยปรากฏอยู่

 18.30 น.         บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร………….. (มื้อที่ 8) หลังอาหารสามารถเดินชมตลาดไนท์ (Night Market) และ Pub Street  ซึ่งอยู่ใกล้กันได้ตามอัธยาศัย 

 

19 ก.ค. 59   วันที่ 4  : เสียมเรียบ-  ช้อปปิ้ง- ศรีโสภณ- ปอยเปต- ตลาดโรงเกลือ- กทม.

07.00 น.    บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 9)  หลังอาหาร นำท่านช้อปปิ้งซื้อสินค้าของ                            ฝากของที่ระลึกที่ตลาดซาจ๊ะ (PSA JA MARKET) กันตามอัธยาศัย และชม                                หมู่บ้านแกะสลักหิน สมควรแก่เวลา นำคณะรับประทานอาหารกลางวัน                                    ระหว่างทาง....(มื้อที่ 10) จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับตามเส้นทางเดิมสู่                              ด่านปอยเปต 

15.00 น.     แวะช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี และเที่ยวชม ตลาดโรงเกลือ จากนั้นทำคณะขึ้นรถ                         ตู้เพื่อ  เดินทางเข้าสู่ กทม. และแวะรับประทานอาหารเย็นระหว่างทางที่                                     ร้าน...........(มื้อที่ 11)

19.30 น.    ถึงกทม. นำท่านเข้าสู่สนามบินดอนเมือง เช็คอินที่เคาน์เตอร์แอร์เอเชีย เพื่อเดิน                          ทางกลับเชียงใหม่

21.00 น.    ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมุ่งสู่สนามบินนาชาติเชียงใหม่

22.10  น.  เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ มีรถตู้คอยรับ นำคณะและสัมภาระขึ้น                           รถตู้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางแวะรับประทานข้าวต้มรอบดึก...ณ  ร้านข้าวต้ม                           ย้ง (มื้อที่ 12)  ก่อนเดินทาง กลับสู่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ!!!!!!

IMG 8641

IMG 8191

IMG 8339

IMG 8345

4

S  6332425

3

5

7

9

14 

15

IMG 8185

S  11690203

1896994 10205189834367229 1017556400283177439 n

S  11690197

10302374 10205189816126773 1236364815036737997 n

12065733 10156194874605596 4656510829505612288 n

12107165 10156194874400596 6381645518979684312 n

S  11690198

S  11690200

S  11690202

S  11690204

S  11690206

S  11690205


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com
 

** ฝาง-เชียงใหม่-เกาหลี บินตรงสู่ “กรุงโซล”

พิมพ์ PDF

 

 ฝาง-เชียงใหม่-เกาหลี  บินตรงสู่ “กรุงโซล”

กำหนดการเดินทาง วันที่..............

 

*** พิเศษ ชม ดรัมเคต โชว์ (โชว์ตีกลอง)

วันแรก    ฝาง-เชียงใหม่- กรุงโซล

 

15.00 น.  คณะพร้อมกันที่จุดนัดหมาย วี อาร์ พีหน้าโลตัส สาขาฝาง ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ สู่จังหวัดเชียงใหม่ สู่ท่าอากาศยานนานาชาติ เชียงใหม่

18.00 น.  คณะถึงสนามบินนานาชาติ เชียงใหม่ นำคณะไปรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านสโมสรทหารอากาศภายในสนามบิน จังหวัด  เชียงใหม่

20.00 น.  นำคณะพร้อมกันเข้าไปในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์  สายการบินโคเรียนแอร์  โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ  คอยอำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง

23.55-06.50 น. คณะบินลัดฟ้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ โดยสายการบินโคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่ KE668 เวลา 23.55 น. บริการอาหารและ   เครื่องดื่มบนเครื่อง

 

วันที่สอง เกาะนามิ ไร่สตอเบอร์รี่ –  –โรงเรียนสอนทำกิมจิ ใส่ชุด ฮันบกฟรี-สนุกสนานกับการเล่นสกี

 

8.00 น.     เมื่อท่านเดินทางถึงสนามบินอินซอน และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่เกาหลีเรียบร้อย  จะมีไกด์พูดไทยได้คอยให้การต้อนรับท่าน โดยนำทุกท่านขึ้นรถ และนำทุกท่านเดินทางท่องเที่ยว

                จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เกาะนามิ เมืองชุนชอน จังหวัด คังวอน ลงเรือเฟอร์รีข้ามไปยังเกาะ (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ แมกไม้ ทิวสนบนเกาะนามิ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ภาพแห่งสีสันความงดงามของใบไม้ ให้ท่านได้ย้อนรอยละครรักแนว DRAMA ซีรีย์เกาหลีที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย  WINTER LOVE SONG  หรือ เพลงรักในสายลมหนาว พร้อมเก็บภาพความประทับใจ ถ่ายรูป กับดาราแสดงนำ BAE YONG JOON และ CHOI JI WOO รูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อไว้เก็บเป็นภาพความประทับใจ กับฉากและเนื้อเรื่องที่เรียกเสียงสะอื้น และน้ำตาของผู้ชมนอกจออย่างท่วมท้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ท่านได้ปั่นจักรยานชมวิวเหมือนในละครหรือชมฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศ  

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(TAKKALBI)

นำท่านเดินทางสู่  ไร่สตรอเบอร์รี่  เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเก็บและลิ้มรสสตรอเบอร์รี่เกาหลีสดๆ ในบรรยากาศภายในไร่สตรอเบอร์รี่อย่างแท้จริงท่านจะได้พบกับวิถีชีวิตชาวไร่สตรอเบอร์รี่ของเกาหลีว่ามีวิธีการปลูกอย่างไรจึงได้ผลสตรอเบอร์รี่ที่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษและหวานหอมชวนน่ารับประทานเป็นที่ชื่นชอบของชาวเกาหลีเองและชาวต่างชาติ และยังเป็นผลไม้ส่งออกของประเทศอีกด้วยชมวิธีการปลูก การดูแลรักษา และท่านยังสามารถเลือกชิมสตรอเบอร์รี่ได้จากภายในไร่ (หมายเหตุ : ไม่สามารถนำออกมารับประทานภายนอกไร่ได้)   

นำท่านเดินทางสู่ กิมจิแลนด์ เล่ากันว่ากิมจิเกิดขึ้นสมัยโชชอนโดยชาวบ้านจะเก็บผักสดหมักไว้ในไหเพื่อไว้กินได้ในทุกฤดูกาล ชาวเกาหลีจะนำกิมจิใส่ลงในอาหารแทบทุกชนิด ตั้งแต่ ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนกระทั้งพิซซ่า และเบอร์เกอร์ “กิมจิจึงถือเป็นอาหารประจำชาติของคนเกาหลี ที่ไม่ว่ามื้อไหนจะต้องมีกิมจิเป็นเครื่องเคียงประจำโต๊ะอาหารในทุกมื้อ คนเกาหลีในสมัยก่อนนิยมทำกิมจิไว้กินเองที่บ้าน ซึ่งกิมจินั้นมีมากกว่า 100 ชนิด ดังนั้นสูตรต้นตำหรับของแต่ละบ้านจึงไม่เหมือนกัน ให้ท่านได้เรียนรู้การทำกิมจิ และได้ฝึกลองทำด้วยฝีมือของตัวเอง พร้อมนำทุกท่านได้ใส่ชุดประจำชาติเกาหลี ฮันบก และถ่ายรูปภาพความประทับใจ    ให้แฟนละครที่เวที BROADWAY ใน NEW YORK มาแล้ว      นำทุกท่านสู่แหล่งช้อปปิ้งที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย             

นำทุกท่านเดินทางสู่ SKI RESORT เพื่อให้ทุกท่านสนุกสนานกับการเล่นสกี ประเทศเกาหลี มีสถานที่เล่นสกีที่ได้รับความนิยมอยู่หลายแห่ง  ลานสกีของเกาหลีจึงเป็นที่รู้จักกันดีในทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีนและญี่ปุ่น ตลอดจนนักสกีระดับอาชีพจากยุโรปและอเมริกา  จึงได้ออกแบบลานสกีที่ได้ระดับมาตรฐานมากที่สุด โดยทุกที่แบ่งพื้นที่สำหรับผู้ที่เริ่มเล่นเลื่อนตำแหน่งไปจนถึงระดับADVANCE  ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ที่พักโรงแรม  ร้านอาหาร มินิมาร์ท  ให้ท่านที่หลงใหลในการเล่นสกีหรือจะสนุกตื่นเต้นกับความเร็วของสโนว์บอร์ดที่ไหลเลื่อนลงมาจากเนินสกีบนภูเขาได้อย่างเต็มที่ (ชุดสกีและอุปกรณ์สกีไม่รวมในค่าทัวร์)    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร(SHABU SHABU)

นำท่านเข้าสู่ที่  SIHEUN HOTEL / HOTEL GREEN WORLD หรือเทียบเท่า (SUWON)

 

  วันที่สาม     สวนสนุก  LOTTE WORLD – COSMETIC SHOP –  ศูนย์โสม - โชว์ตีกลอง ดรัมเคตโชว์

 

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

   นำท่านสู่ สวนสนุก LOTTE WORLD สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี  เริ่มต้นด้วยความสนุกสุดยอดกับ 5 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเริ่มด้วย PHARAOH’S FURY ตื่นเต้นเล้าใจกับการล่องแก่งพิชิตฟาร์โรแห่งอียิปต์, ATLANTIC ADVENTURE นั่งรถไฟเหาะพิชิตแอตแลนติก, GYRO DROP เก้าอี้หมุนเหาะด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความสูงกว่า 70 เมตร เพลิดเพลินมหกรรมขบวนพาเหรดที่เฉลิมฉลองใน WORLD CARNIVAL PARADE พร้อม พบความอัศจรรย์ใจ   และตื่นตากับ เลเซอร์โชว์    การแสดงที่นำทุกท่านไปสู่ดินแดนแห่งกาแล็กซี  ให้ท่านได้เต็มอิ่มกับบัตร FREE PASS  เล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิดไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ MAGIC  LAND ที่มีเครื่องเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น WAIKIKI WAVE, SWING TREE, BUNGEE DROP และอื่นๆ อีกมากมาย 

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (BULGOGI)

 นำท่านสู่ ศูนย์รวมเครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี เช่น ROJUKISS, LOTREE, LANEIGN, SULWASOO ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีสุดฮอตฮิตในราคาแบบพิเศษๆ      นำท่านสู่ ศูนย์โสมรัฐบาล ซึ่งรับรองคุณภาพจากรัฐบาล เป็นโสมที่อายุ 6 ปี ซึ่งถือว่ามีคุณภาพดีที่สุด ให้ท่านได้เลือกซื้อโสมคุณภาพและราคาถูกกว่าไทย 2 เท่า โสมเกาหลีถือเป็นยาบำรุงร่างกาย หรือสามารถซื้อเป็นของฝากจากประเทศ 

จากนั้นนำท่านชม Drum Cat Show เป็นการโชว์ที่แสดงความสามารถของผู้หญิงทั้งวงในการตีกลองและเล่นเครื่องดนตรีสากลได้อย่างมหัศจรรย์ โดยเป็นการแสดงใหม่สาสุดของสาว ๆ สุดเซ็กซี่ ซึ่งได้รับรางวับชนะเลิศจากปี 2008 จากประเทศอังกฤษ และปี 2009 จากเกาหลีในงานโคเรีย เอนเตอร์เทนเมนต์ อวอร์ด และเริ่มเปิดการแสดงสุดอลังการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 เป็นครั้งแรกที่กรุงโซล ซึ่งโชว์นี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศเกาหลีเวลานี้

ค่ำ            รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (JIMDAK)

นำท่านเข้าสู่ที่  COOP CITY HOTEL/ HOTEL  PRIME/ MARU HOTEL.หรือเทียบเท่า (SEOUL)

 

วันที่สี่     พระราชวังเคียงบ็อค –-พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน -RED PINE - ศูนย์สมุนไพร –-ตลาดเมียงดง –

N SEOUL TOWER(ไม่รวมลิฟท์)- ซุปเปอร์มาร์เก็ต เชียงใหม่

 

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากอิ่มจากมื้อเช้าเราจะนำนำทุกท่านเดินทางชมพระราชวังเคียงบ็อค โดยระหว่างเดินทางจะได้ผ่านชมทำเนียบประธานาธิบดี หรือบลูเฮาส์ และย้อนรอยละคร  “PRINCESS HOURS”  หรือ เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชาที่สำหรับพระราชวังเคียงบ็อค เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สุดของราชวงศ์โชซอล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394  โดยใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยโบราณโดยเป็นทั้งที่ประทับและฐานอำนาจของพระเจ้าแทโจ    และต่อเนื่องมาถึงกษัตริย์ ในราชวงศ์โชซอล  พระที่นั่งคึนชองจอนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ว่าราชการต่อมาคณะปกครองเกาหลีของญี่ปุ่นได้สร้างอาคารรัฐสภาขนาดยักษ์ขึ้นคั่น เพื่อต้องการแสดงนัยเด่นชัดว่าต้องการตัดความผูกพันระหว่างพระราชวงศ์กับราษฎร อาคารหลังนี้ได้ถูกรื้อถอนไปในโอกาสครบรอบ 50 ปี การปลดออกจากญี่ปุ่น ในเขตพระราชวัง ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู  เป็นอาคารสองชั้น ตัวพระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทาน   จากนั้นนำท่านสู่ พิพิธภัณฑ์คติชนพื้นเมือง เพื่อให้ท่านได้ย้อนเรื่องราวและสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นมาของชาวเกาหลีตั้งแต่ยุคโบราณโดยผ่านห้องแสดงหุ่นจำลองพร้อมภาพสามมิตินอกจากนั้นยังได้จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของคนเกาหลีในสมัยโบราณ  

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (SAMGYETANG)

จากนั้นเดินทางสู่ร้านสมุนไพร RED PINE เป็นผลิตภัณฑ์ ที่สกัดจากน้ำมันสน ที่มีสรรคุณช่วยบำรุงร่างกาย ลดไขมัน ช่วยควบคุมอาหารและรักษาสมดุลในร่างกาย        นำท่านเดินทางสู่  ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเกตนามู ต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตในป่าลึกบนภูเขาที่ปราศจากมลภาวะและระดับสูงเหนือน้ำทะเล 50-800 เมตร เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพรอ๊อตเกตนามูนี้ เป็นที่นิยมของคนเกาหลีรุ่นใหม่ เพราะมีผลช่วยดูแลตับให้แข็งแรง ป้องกันโรคตับแข็งไม่ถูกทำลายจาการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ บุหรี่ สารตกค้างจากอาหารและยา   จากนั้นช็อปปิ้งตลาด เมียงดง หรือ สยามสแควร์เกาหลี ท่านสามารถเลือกสินค้าเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของเกาหลีได้ที่นี่โดยเฉพาะสินค้าวัยรุ่น เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ทั้งแบรนด์เนม เช่น EVISU, GAP, ONISUKA TIGER และสินค้าจากแบรนด์เกาหลีโดยเฉพาะ เครื่องสำอาง เช่น ETUDE HOUSE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP, MISSHA, ROJUKISS, LANEIGE อีกทั้งยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหารต่างๆ ท่านสามารถลิ้มลองไอศกรีม 2,000 วอน ที่สูงเกือบฟุตได้  หลังจากซ็อปปิ้งเรียบร้อย จากนั้นนำท่านย้อนรอยละครซีรีย์เกาหลีดัง MY NAME IS KIM SAM SOON และ BOY OVER FLOWER ที่ นัมซานภูเขาแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล บนยอดเขามีหอ SEOUL TOWER 1 ใน 18 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล   นำท่านสู่ NAMSAN VIEW POINT ให้ท่านได้ถ่ายรูปและสัมผัสความน่ารักของวัยรุ่นเกาหลี นิยมมาคล้องกุญแจไว้ด้วยกันระเบียงทุกด้านของ SEOUL TOWER จึงเต็มไปด้วยกุญแจหลากหลาย

 นำท่านสู่สนามบินอินชอน ระหว่างทางให้ทุกท่านได้แวะ SUPER MARKET (ร้านละลายเงินวอน) ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าเกาหลีได้อีกรอบ เช่น บะหมี่ซินราเมียน  (มาม่าสไตล์เกาหลี) อูด้ง กิมจิ ขนมช๊อคโก้พาย น้ำจิ้มปรุงรสหมูย่างเกาหลี ไก่ตุ๋นโสมสำเร็จรูป ผลไม้ตามฤดูกาล ในราคาพิเศษก่อนกลับเมืองไทย

15.00 น. เดินทางถึงสนามบิน เพื่อเช็คอินเตรียมตัวกลับ

18.40 น.  เดินทางกลับสู่เชียงใหม่โดยสายการบิน โคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่  KE667 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

22.40 น. ถึงสนามบินเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ 

               โดยมีรถตู้คอยรับคณะนำสัมภาระขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางสู่ อำเภอฝาง

01.00 น. นำคณะส่งถึงที่บ้านทุกท่าน ........โดยสวัสดิภาพ!!!!!!  เก็บเกาหลีไว้ในความทรงจำตราบนานเท่านาน

เมนูอาหาร

1. TAKKALBI ไก่ผัดเผ็ดบาร์บีคิวเป็นเนื้อไก่ที่หั่นออกเป็นชิ้นพอคำ คลุกเคล้าด้วยซีอิ้วเครื่องปรุง และหมักทิ้งไว้จนได้ที่ จึงนำเนื้อไก่และผักมาผัดบนกระทะยักษ์ รับประทานพร้อม กิมจิ ซุปสาหร่าย และข้าวสวย

2. ชาบู ชาบู สุกี้สไตล์เกาหลี บนหม้อไฟร้อนๆ ประกอบด้วย ผักสดชนิดต่างๆ และเนื้อหมูสไลด์น้ำซุปร้อนๆ และเส้นอูด้งซึ่งขาดไม่ได้ในการทาน ชาบู ชาบู พร้อมข้าวสวย

3. SAMGYETANG ไก่ตุ๋นโสมต้นตำหรับเกาหลี สูตรดั้งเดิมที่นำไก่ทั้งตัวไปตุ๋นกับรากโสม โดยต้องน้ำข้าวยัดเข้าไปในท้องไก่จะมีกลิ่นหอมของโสมเวลาทานจะมีรสชาติกลมกล่อม น้ำซุปหอมอร่อย ซดน้ำซุปร้อนๆ  หอมอร่อย

4. จิมดัก  JIMDAK  (ไก่อบซีอิ๊ววุ้นเส้น ) เป็นเมนูพื้นเมืองดั้งเดิมของเมืองอันดง จิมดักนี้ส่วนใหญ่จะใช้ไก่ทั้งตัว ผัดรวมกับวุ้นเส้น มันฝรั่ง แครอท พริก และซอสดำ เนื้อไก่ที่หมักจนนิ่ม ให้ทานอย่างจุใจ เสริ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

5. โอซัม พุลโกกิ ประกอบด้วยปลาหมึกสด และหมูสไลด์ที่ผ่านการหมักด้วยเครื่องปรุงจนได้ที่ นำมาผัดรวมกับผักสดนานา ชนิดบนกระทะร้อนๆ รับประทานพร้อมเครื่องเคียง และข้าวสวยร้อนๆ มีกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง

DSC06113 Medium

DSC06112 Medium

 

DSC06126 Medium

DSC06218 Medium

DSC06255 Medium

DSC06323 Medium

DSC06328 Medium

DSC06339 Medium

DSC06331 Medium

 

DSC 1636

 

DSC 1688

DSC 1694

DSC 1734

DSC 1798

DSC 1799

DSC 1807

DSC 1821

DSC 1857

DSC 1861

DSC 1874

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com
 

** โปรแกรมแพ็คเกจพิเศษ หลวงพระบาง-ทุ่งไหหิน เมืองมรดกโลกและแอ่งอารยะธรรมของประเทศลาว

พิมพ์ PDF

 

เมืองเล็กๆ ที่สืบเชื้อสายบรรพบุรุษเดียวกับชาวไทย ที่มีประชากรประมาณ  6  ล้านคน แต่มีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า 236,800 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ เหมือนครั้งหนึ่งของภาคเหนือบ้านเฮา

 

                                ในอดีต หลวงพระบาง เคยเป็นเหมืองหลวงเก่าของลาวมาก่อน หรือที่หลายคนรู้จักในนาม อาณาจักรล้านช้าง ..... เมืองที่องค์การยูเนสโก้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นเมือง มรดกโลก ชื่อเสียงของหลวงพระบางจึงเป็นที่รู้จักของชาวโลก.... ด้วยเมืองที่สงบ อบอุ่นด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรีจิต เหมือนยุคสมัยก่อนๆของบ้านเรา.... หลวงพระบาง  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาน ไหลมาบรรจบรวมกับแม่น้ำโขง ช่องที่คดโค้งสวยงาม.... มองดูรอบๆ ไปทางไหน ดูสดสวย อุดมสมบูรณ์ไปหมด…………….

 

                                ก่อนมีชื่อเรียกขาน หลวงพระบาง มีชื่อเรียกว่า เมืองชวา และเปลี่ยนมาเป็นชื่อ เมืองเชียงทอง.... กระทั่ง กษัตริย์ยุคขอม ได้มอบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ชื่อว่า พระบาง เป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล.... และเจ้าฟ้างุ้ม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น หลวงพระบาง.... เมืองที่คนไทยไปแล้วอยากไปอีก.... กับ หลวงพระบาง เมือง มรดกโลก”………..

 

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** *

 

วันแรก                   ไชยปราการ-ฝาง จ.เชียงใหม่-.แม่จัน-เชียงของ จ.เชียงราย –ที่พัก

 

 ทองเทยว

 

 

 

 

 

 

 

13.00 น.                คณะพร้อมกันที่จุดนัดหมาย อ.ไชยปราการ และ อ.ฝาง ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ ตามเส้นทางถนน

 

                           สายฝาง-ท่าตอน-แม่จัน-เชียงของ ( ระหว่างทางคณะสามารถแวะลงปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ตามปั๊มต่างๆได้

 

                          โดยบอกให้คนขับรถ)

 

16.00 น.                เวลาโดยประมาณ ถึง อ.เชียงของ นำคณะเข้าเช็คอินที่โรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซด์  ให้คณะพักผ่อนหรือ

 

                        เดินเล่นตามอัธยาศัย (โรงแรมติดแม่น้ำโขงมองเห็นฝั่งประเทศลาว บ้านห้วยทราย )

 

 18.00  น.           พาคณะรับประทานอาหารเย็น(มื้อที่1) ณ ห้องอาหารของโรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซด์   เสร็จพาคณะเข้าที่พัก

 

                        พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

 

 

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สอง                 เชียงของ - ห้วยทราย-หลวงพระบาง ( โดยเรือ )

 

06.00 น.                คณะลงมารับประทานอาหารเช้า (มื้อที่2) ณ ห้องอาหารของโรงแรม เสร็จแล้วกลับไปทำภารกิจส่วนตัวที่ห้องพร้อมเตรียมสัมภาระกระเป๋าลงมาไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์ และเตรียมตัวเดินทางไปยังด่านชายแดนไทย

 

07.00  .             เตรียมตัวขึ้นรถตู้ เดินทางไปยังด่านชายแดน

 

07.30 น.              พาคณะผ่านด่านพิธีการตรวจสอบเอกสารขาออกของฝั่งไทยเสร็จแล้ว    พาคณะนั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 สู่ด่านห้วยทราย สปป.ลาว และผ่านพิธีการตรวจสอบเอกสารขาเข้าของ สปป.ลาว ณ ด่าน

 

                            ห้วยทราย

 

08.30  น.            พาคณะไปลงเรือ   บนเรือทุกท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมตามถนัด อาทิเช่น ร้องคาราโอเกะ หรืออื่นๆตามสะดวก พร้อมนั่งชื่นชมธรรมชาติและทิวทัศน์ของ 2 ฝั่งแม่น้ำโขง                                   

 

ตอนเที่ยง           คณะรับประทานอาหารกลางวันบนเรือ(มื้อที่3) หลังอาหารทุกท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมตามถนัดต่อหรือจะเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัยไม่ว่ากัน

 

ตอนเย็น     ถึงหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก     พาคณะเช็คอิน เก็บสัมภาระเข้าที่พัก

 

นค่ำ       พาคณะรับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4) ณ.ร้านอาหาร..................เสร็จพาคณะเดินเที่ยว                    ตลาดกลางคืน(Night Market) ของเมืองหลวงพระบาง เสร็จกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

 

 

 

 

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สาม         ตักบาตรข้าวเหนียว-พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง-วัดเชียทอง-พระธาตุภูสี—บ้านผานม-น้ำตกตาดกวางสี

 

05.30 น.                ออกจากที่พัก รถมารอรับเพื่อเดินทางไปตักบาตรข้าวเหนียว มีพระสงฆ์-สามเณรมากถึง 300-400 รูป จากนั้นพาคณะไปเดินเที่ยวชมตลาดเช้าท้องถิ่นของชาวหลวงพระบาง เสร็จแล้วพาคณะกลับคืนที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่5) ที่โรงแรมที่พัก จากนั้นพาชมศิลปวัฒนธรรมทั่วเมืองหลวงพระบาง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนและถูกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ในวันที่ 20 ธันวาคม 2538 หรือ ค.ศ.1995 เมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบซึ่งมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านสองสายได้แก่แม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน จึงทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงาม เพราะมีสายน้ำล้อมรอบไว้สองด้าน นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบก็ถูกโอบอุ้มไว้ด้วยภูเขาน้อยใหญ่ เสมือนเป็นกำแพงล้อมรอบพื้นที่ราบอันสมบูรณ์นี้เอาไว้ อีกทั้งยังทำให้วิวทิวทัศน์เขียวขจีตลอดปี จากนั้นนำคณะเข้าชมหอพิพิธภัณฑ์ (พระราชวังเก่าของพระเจ้าแผ่นดิน) เสร็จแล้วเข้ากราบนมัสการพระพุทธรูปทองคำปางห้ามญาติ ซึ่งชาวหลวงพระบางเรียกกันว่า องค์พระบาง อันเป็นที่มาของชื่อ เมืองหลวงพระบาง

 

                พาคณะเดินทางไปเที่ยวชมวัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สุดยอดแห่งความงามของสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ของชาวหลวงพระบาง พระอุโบสถมีหลังคาซ้อนกัน 3 ชั้น ลดหลั่นลงตามลำดับอย่างวิจิตรบรรจงและคล้อยต่ำลงจนแทบถึงพื้น ตามฝาผนัง เพดานและเสา คานเพดานจะเป็นลวดลายสีทองบนพื้นดำ พาชมโรงเก็บพระราชโกศของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งฝาผนังด้านหน้าเป็นไม้แกะสลักที่งามอร่ามด้วยสีทองจากฝีมืออันประณีตของช่างเพียตัน พาคณะขึ้นพระธาตุภูสี ซึ่งตั้งอยู่จุดใจกลางของเมืองหลวงพระบาง บนยอดสูงสุดของพระธาตุ ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางทั้งสี่ด้าน

 

ตอนเที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่6) ณ ร้านอาหาร........................ เสร็จ

 

                     พาคณะเดินทางไปยังบ้านผานม เพื่อให้ท่านได้เลือกชมและซื้อผ้าแพร

 

                     ไหม ซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวบ้านผานม(ชนเผ่าลื้อ) จากนั้นนั่งรถไปยัง

 

                      น้ำตกตาดกวางสี ระยะทาง 35 กม. เสร็จกลับคืนสู่เมืองหลวงพระบาง นำ

 

                      ท่านเข้าสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อรับคำอวยพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งชาย-หญิง

 

                      หนุ่ม-สาว ของชาวหลวงพระบาง  

 

ตอนเย็น             นำคณะเข้ารับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร(มื้อที่7)  พร้อมทั้งชมการแสดงฟ้อนรำของน้องๆเยาวชนท้องถิ่น (ท่านสามารถร่วมรื่นเริง ฟ้อนรำวง ไปด้วยได้)   

 

ตอนค่ำ               พาคณะเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะเดินเล่นชมเมืองหลวงพระบางยามค่ำคืนอีกครั้งก็ได้ไม่ว่ากัน

 

 

 

 

 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่สี่                   หลวงพระบาง-เมืองคูน-เชียงขวาง-โพนสวรรค์-ทุ่งไหหิน-ที่พัก

 

 ตอนเช้า                           คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่8) ณ ห้องอาหารโรงแรม........................เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม.เสร็จแล้ว

 

                         เดินทาง ออกเดินทางออกจากหลวงพระบางไปสู่เมืองโพนสวรรค์ แขวงเชียงขวาง เมืองแห่งทุ่งไหหิน

 

 

 

ตอนเที่ยง         แวะรับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่9) ที่ร้านศาลาพูคูน เมืองคูน

 

ตอนบ่าย           ถึงเมืองโพนสวรรค์ แขวงเชียงขวาง พาคณะเดินทางออกนอกตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10

 

                          กิโลเมตร เพื่อไปเที่ยวชม “ทุ่งไหหิน” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งยังคงเป็น 

 

 

 

                   

 

                          ปริศนาของนักโบราณคดีว่าทุ่งหญ้าเขียวขจีที่เต็มไปด้วยไหขนาดใหญ่นั้นสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรและใครเป็น

 

                         ผู้สร้าง ไหบางลูกมีขนาดใหญ่ 5 คนโอบ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้พบเห็น สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ที่

 

                          มองเห็นทัศนียภาพแบบ 360 องศา    มองเห็นทิวเขาน้อย-ใหญ่ที่สวยงาม จนได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวชาว

 

                         ต่างประเทศว่าเป็น ”สวิสเซอร์ลาว”  ซึ่งมีความหมายว่า  ”สวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองลาว”  นั่นเอง  นำคณะเข้า

 

                         ชมถ้ำและหลุมหลบภัยในครั้งสงครามปลดปล่อยสปป.ลาว  เสร็จพาคณะเข้าที่พัก

 

ตอนเย็น            นำคณะเข้ารับประทานอาหารเย็น(มื้อที่10)

 

ตอนค่ำ             พาคณะเที่ยวชมตัวเมืองโพนสวรรค์ยามค่ำคืน เดินเล่นตลาดไนท์โพนสวรรค์เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก

 

                         ของท้องถิ่น  หรือเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย                        

 

 

 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่ห้า                 เชียงขวาง-อุดมไชย-- ที่พัก

 

ตอนเช้า                 คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่11) ณ ห้องอาหารโรงแรม.....

 

                            เสร็จแล้วออกเดินทางออกจากเมืองแห่งทุ่งไหหิน แอ่งอารยะ

 

                            ธรรมของประเทศลาว ย้อนกลับเข้าผ่านเมืองคูน แขวงเชียงขวาง

 

                             แวะเที่ยวชม วัดเพยและพระธาตุฝุ่นเมืองคูนเก่า  จากนั้นเดินทาง

 

                             ต่อไปยังแขวงอุดมไชย ระหว่างทางยังได้เห็นป่าไม้และทิวทัศน์

 

                            ที่สวยงามประกอบกับเขาหินปูนที่มีรูปร่างต่างๆสวยงาม ลาววันนี้ยังสามารถรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างดี

 

                             และสวยงามสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

 

ตอนเที่ยง              พาคณะรับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่12) ณ ร้านอาหาร............................

 

ตอนบ่าย             ออกเดินทางต่อไปยังแขวงอุดมไชย หรือเมืองไชยซึ่งเป็นเมืองหลวงของแขวงอุดมไชย ตั้งอยู่ในวงล้อมของ

 

                            แขวงพงสาลี หลวงพระบาง ไชยบุรี และหลวงน้ำทา สมัยสงครามกู้ชาติและเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 

                           ทางหลวงหมายเลข 1 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 เคยเป็นศูนย์กลางที่จีนใช้ส่งความช่วยเหลือผ่านไปยัง

 

                           ขบวนการประเทศลาวในช่วงปี พ.ศ. 2513 แต่ในปัจจุบัน อาคารกงสุลเก่าของจีนได้เปลี่ยนแปลงเป็น

 

                           โรงแรมไปแล้ว รัฐบาลลาวตอบแทนจีนที่ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างถนนด้วยการให้สัมปทานไม้

 

                           ในเขตหุบเขาแขวงอุดมไชย ส่งผลให้ป่าไม้บริเวณนี้ถูกทำลายลง ปัจจุบันจีนมีอิทธิพลในรูปของการค้า

 

                            มีตลาดใหญ่ๆ ขายของมากมาย

 

ตอนเย็น              พาคณะรับประทานอาหารเย็น(มื้อที่13) ณ.ร้านอาหาร.........................

 

ตอนค่ำ                พาคณะเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะเดินเล่นตลาดมืด(Night Market) ของเมืองไชยก็ตามสะดวก

 

 

 

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560

 

วันที่หก              อุดมไชย - หลวงน้ำทา – ห้วยทราย-เชียงของ-ฝาง-ไชยปราการ

 

ตอนเช้า                คณะรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่14) ณ ห้องอาหารโรงแรม.................พร้อมเตรียมสัมภาระ เช็คเอาท์

 

                            ออกเดินทางจากเมืองอุดมไชยเพื่อเดินทางต่อไปยังหลวงน้ำทา

 

                                           เมืองหลวงน้ำทาในช่วงสงครามอเมริกา พ.ศ. 2498-2518   พื้นที่แถบนี้เคยเป็นสมรภูมิรบ ระหว่าง

 

                           ขบวนการประเทศลาวและกลุ่มกองโจรของพวกชาวเขา   ส่วนใหญ่เป็นม้ง ที่ได้รับการหนุนหลังจากหน่วย-

 

                           งานซีไอเอของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตัวเมืองถูกทำลายโดยไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องย้ายไปสร้างเมืองใหม่ที่

 

                            ริมฝั่งแม่น้ำทา ห่างจากที่ตั้งเดิมมาทางเหนือ 7 กิโลเมตร ใกล้กับทางหลวงที่ใช้ไปยังเมืองสิงห์ อุดมไชย

 

                            และบ่อเต็น ประกอบด้วยคนหลายชนเผ่า แม้ว่าทางการจะย้ายเมืองหลวงใหม่มาแล้วก็ตาม แต่สถานที่ท่อง

 

                           เที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองเก่า ชาวหลวงน้ำทาเรียกเขตนี้ว่า  “เมือง”  และเรียกเขตที่สร้างใหม่ว่า ”แขวง”

 

                           นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้ามาแวะพักเพื่อเดินทางต่อไปยังบ่อแก้ว หรือไม่ก็ไปจีน หรือไปยังเมืองสิงห์

 

                           ภายตัวเมืองหลวงน้ำทามีที่พักแบบเกสต์เฮาท์ค่อนข้างเยอะ

 

                                          • ปัจจุบันหลวงน้ำทามีถนนสายกว้าง ถ้าเดินมาทางเชิงสะพานด้านตะวันออกของถนนสายหลักใน

 

                            ยามเช้า จะเห็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีรถขนส่ง ถัดจากเมืองประมาณ

 

                            2 กิโลเมตรไปตามเส้นทางเมืองสิงห์ จะพบศูนย์หัตถกรรมหลวงน้ำทาซึ่งสหภาพยุโรปเป็นผู้ออกเงินสร้าง

 

                            เพื่อให้มีที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมของชาวบ้าน ภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นที่อยู่อาศัย

 

                           ของชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ ม้ง ขมุ ไทเหนือ ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทยวน ไทลื้อ ละวิด ละเมด สีดา อีก้อ

 

                            มูเซอ กะลอม ไทยใหญ่

 

ตอนเที่ยง              พาคณะรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่15) ณ ร้านอาหาร........................เสร็จแล้วออกเดินทางต่อไปยัง

 

                            ด่านห้วยทราย

 

15.00 น.                ถึงด่านห้วยทราย นำท่านผ่านพิธีการขาออกจากฝั่งลาว พาคณะนั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4                            สู่ด่านไทย อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อทำพิธีการขาเข้าของฝั่งไทย

 

17.00 น.               แวะรับประทานอาหารเย็น (มื้อที่16)    ณ ร้านอาหาร.................................. ก่อนเดินทางกลับสู่ อ.ฝางและ

 

                           ไชยปราการ ตามเส้นทางเดิม กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ..อย่างมีความสุขพร้อมความประทับใจ!!!!!!!!                      

 

 

 

 

 

 

 

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com
 

ฝางประชุมบูรณาการเมืองท่องเที่ยว

พิมพ์ PDF

ฝางประชุมบูรณาการเมืองท่องเที่ยว

วันที่ 26 ธันวาคม 2554 เวลา 14.00 น.

นายนิเวศน์ พูลสวัสดิ์ นายอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำคณะสงฆ์ ข้าราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. นายกเทศบาล และส่วนเอกชน พร้อมทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนสื่อมวลชนต่างๆ  มาร่วมประชุมวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ที่หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพฝาง ให้อำเภอฝางเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทุกมิติทั้งต่างชาติและคนในประเทศ เพื่อกระจายรายได้ให้กับภาคเอกชนและภาครัฐ เพราะว่าสถานที่นั้นเหมาะสมมาก ที่จะเปิดการท่องเที่ยว เพื่อจะได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ทำให้รายได้กระจายเข้ามาในอำเภอฝาง หาทางดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาตลอดปี ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพทุกด้านของคนอำเภอฝาง พัฒนาสถานที่แหล่งท่องเที่ยว พัฒนาระบบสารสนเทศ พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น มีมาตรฐาน มีมาตรฐาน การรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว พัฒนาเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มมาตรฐานอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งในอำเภอฝางมีแหล่งท่องเที่ยวต้นทุนมากอยู่แล้ว ทั้งดอยอ่างขาง ดอยฟ้าห่มปก อุทยานฟ้าห่มปก โป่งน้ำร้อน ถ้ำห้วยบอน น้ำตก น้ำออกรู สวนส้ม แหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกในประเทศไทย กิจกรรมชนเผ่าต่างๆ จะให้ทางผู้นำในแต่ละพื้นที่ได้สำรวจและหาแหล่งท่องเที่ยวที่จะต้องทำการพัฒนาโดยด่วน และที่วิทยาลัยการอาชีพฝาง ก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักกางเต้นท์ ในช่วงหยุดปีใหม่เพราะสถานที่พร้อมมีห้องน้ำ และลานกางเต้นท์  พร้อมทั้งยามรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไม่มีที่พักก็เชิญเข้มาติดต่อขอพักได้

alt

alt

 

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com
 

กำนันผู้ใหญ่บ้านมอบเงินช่วยน้ำท่วม ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ

พิมพ์ PDF

กำนันผู้ใหญ่บ้านมอบเงินช่วยน้ำท่วมผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ

วันที่ 22 พฤศจิกายน 54 เวลา 09.00 น.

         นายสุทัศน์ ดวงไทย กำนันตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำผู้ใหญ่บ้านในตำบลเวียง มาร่วมมอบเงินให้กับ นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดอำเภอฝาง รักษาการแทนนายอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ถูกน้ำท่วมในประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท เศษ ซึ่งได้จาการที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอฝาง ได้ร่วมกันบริจาค คนละเล็กคนละน้อย ซึ่งทราบจาก นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดอำเภอฝาง ว่าในขณะนี้นั้นทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอฝาง เชียงใหม่ จำนวน  8 ตำบล นำเงินที่ได้จากการรับบริจาคจากประชาชน ทั้งสิ้นแล้วประมาณ 100,000 บาท เศษ แล้ว ซึ่งจะนำเงินดังกล่าวให้ทางเสมียนตราฯ อำเภอฝาง ส่งผ่านเข้าบัญชีเงินฝากของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เพื่อให้ทาง มูลนิธิฯได้นำเงินเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่อไปอย่างทั่วถึง และประชาชนที่บริจาคเงินมาก็จะได้สบายใจเพราะเชื่อว่าเงินที่ส่งเข้ามูลนิธิฯ ใช้อย่างมีคุณค่าถึงมือประชาชนแน่นอน

alt

Joomla Templates and Joomla Extensions by ZooTemplate.Com
 


JPAGE_CURRENT_OF_TOTAL

ข่าวสาร Facebook